- • สุริยะ ให้เวลา 2 สัปดาห์ ทล. และ ทช. ตรวจสอบข้อมูลสินบนเอกชนต่างชาติ
- • ยืนยันดำเนินการจริงจัง เพราะเรื่องนี้ทำหน่วยงานเสียหาย
- • ยอมรับเป็นบทเรียน
- • ไม่หวั่นซ้ำรอย
- • กำชับทุกหน่วย ตรวจสอบการประมูลทุกขั้นตอนเข้มข้น
“สุริยะ”ให้เวลา2 สัปดาห์ ทล.-ทช.ตรวจสอบข้อมูลสินบนเอกชนต่างชาติ ชี้เรื่องเกิดนานแล้ว แต่ยืนยันดำเนินการจริงจังเพราะทำหน่วยงานเสียหาย ยอมรับเป็นบทเรียน ไม่หวั่นซ้ำรอย กำชับทุกหน่วยตรวจสอบการประมูลทุกขั้นตอนเข้มข้น
จากที่มีรายานข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) หรือ ก.ล.ต.สหรัฐ ระบุว่า ผู้บริหารระดับสูง และพนักงานของ บริษัท เวิร์ทเก้น (ประเทศไทย) จำกัด (Wirtgen (Thailand) Co.,Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ"เดียร์ แอนด์ คอมพานี" (Deere & Company) ดำเนินธุรกิจรถแทรกเตอร์ในชื่อ "จอห์น เดียร์" (John Deere) ได้จ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่ในหลายหน่วยงานของไทย รวมถึงกรมทางหลวง (ทล.) และ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เพื่อชนะการขายงาน ซึ่งสินบนนั้นมาทั้งในรูปแบบของการพาไปเที่ยวต่างประเทศ และการให้เงินผ่านบุคคลที่ 3 รวมถึงการพาไปที่ร้านนวด
ล่าสุด เมื่อวันที่19 ก.ย.2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะกำกับ กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ที่ถูกระบุว่า มีเจ้าหน้าเกี่ยวข้องกับการรับสินบนจอห์น เดียร์ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นนานพอสมควร ตอนนี้ ตนได้สั่งการให้ทางกระทรวงไปดูในรายละเอียดทั้งหมดให้ครบถ้วน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะอยู่ในส่วนของเว็บไซต์ทั้งหลาย ให้ไปรวบรวมข้อเท็จจริงตรงนี้มาให้ได้ก่อน หลังจากนั้นคงจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุดการรวบรวมข้อมูลได้ตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดแล้วหรือยัง ถ้าพบแล้ว ดำเนินการอย่างไรต่อไปนายสุริยะกล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนหารายละเอียด ของทั้งกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท คิดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 อาทิตย์ จะมีความชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ประเด็นสินบททำให้เสียหายกระทบความเชื่อมั่น ถือเป็นบทเรียนที่จะต้องเพิ่มเข้มงวดกวดขัน ในการทำการประมูลหรือการจัดจ้างในปัจจุบันและอนาคตหรือไม่ว่า อย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำรอยอีก
นายสุรินะกล่าวว่า ผมคิดว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญมากๆ ในเรื่องความโปร่งใสต่างๆ โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมก็มีโครงการต่างๆที่จะประมูล ก็ต้องมีความเข้มข้น ส่วนบทเรียนในอดีต เจ้าหน้าที่ก็ต้องระวังตัว ถ้าไม่งั้นแล้ว อาจโดนดำเนินคดีอาญา ถึงขั้นติดคุกได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มีประเด็นสินบทเป็นการประมูลจัดซื้อจัดจ้างโครงการที่อาจจะไม่ใหญ่มาก นโยบายอาจลงไปไม่ถึง จะเป็นช่องว่างที่เจ้าหน้าที่จะไปเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ นายสุริยะล่าวว่า อย่างที่ตนเรียนไป ข่าวที่ออกมาเป็นบทเรียนของเจ้าหน้าที่ การกระทำต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เรื่องนี้ อธิบดีกรมทางหลวงคนใหม่ (นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย) จะต้องลงไปดูแล ส่วนกรมทางหลวงชนบทก็เป็นหน้าที่ของนายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีทช.คนใหม่ และไม่ใช่แค่ 2 หน่วยนี้ แต่ทุกหน่วยงาน ทุกส่วนของกระทรวงคมนาคมก็ต้องเฝ้าระวังเข้มงวด
“นโยบายชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่จะต้องรอการหาข้อมูลให้ชัดเจน มันก็จะเป็นบทเรียนว่า ผู้บริหารทุกคนต้องระวัง ซึ่งหากได้ข้อมูลออกมาพบคนเกี่ยวข้อง ไม่มีการผ่อนปรนแน่นอน เรื่องนี้ผมจริงจัง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแน่นอนและถ้าได้ข้อเท็จจริงก็สามารถดำเนินการได้ เรื่องนี้ทาง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็คงเข้ามาสอบสวนด้วย”นายสุริยะกล่าว