- • แอลจี เปิดออฟฟิศแห่งใหม่ ตอกย้ำแนวคิด “Life’s Good.”
- • เปลี่ยนโฉมเป็น “Smart Life Solution Company” เต็มรูปแบบ
- • แบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม: B2B, B2C, D2C
- • ตั้งเป้า 5 ปี สร้างสมดุลย์รายได้เป็น 50% (B2B), 20% (B2C), 30% (D2C)
ผู้จัดการรายวัน 360 - แอลจี เปิดออฟฟิศแห่งใหม่ ตอกย้ำแนวคิด ‘Life’s Good.’ พร้อมก้าวสู่การเป็นองค์กร ‘Smart Life Solution Company’ เต็มรูปแบบ เดินเกมส์ธุรกิจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม B2B, B2C, D2C ตั้งเป้าใน 5 ปี สร้างสมดุลย์รายได้เป็น ส่วนปีนี้ต้องปรับลดเป้าโตใหม่เป็น 7% จากเดิม 10% เหตุสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อไม่ดี หรือทั้งปีคาดรายได้แตะ 16,000 ล้านบาท
นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแผนดำเนินธุรกิจจากนี้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ B2B, B2C และ D2C (Direct-to-Customer) ซึ่งปัจจุบันทำรายได้ในอัตราส่วน 80-10-10% ตามลำดับ โดยที่กลุ่ม B2B ยังให้ความสำคัญอยู่ จากช่องทางจำหน่ายทั้งหมดกว่า 900 แห่ง ยังเปิดเพิ่ม 40-50 แห่งอย่างต่อเนื่อง ส่วน B2C จะให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะเห็นโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มออฟฟิศบิวดิ้ง โรงเรียน โรงแรม ซึ่งเราสามารถนำเสนอสินค้าในกลุ่มของ จอภาพ Digital Signage และแอร์โซลูชั่นได้
ขณะเดียวกันในส่วนของ D2C ก็มีโอกาสสูง ซึ่งจะเน้น 2ส่วน คือ Online Brand Shop (OBS) หรือ เว็บไซด์ของแอลจี. คอม และธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ เช่น LG Laundry Crew และปลายปีนี้ที่จะเปิดตัวอีก 1 ธุรกิจ คือ เครื่องกรองน้ำ มองว่า ปีหน้าสัดส่วนรายได้จะขยับเป็น 70-15-15% ตามลำดับ ซึ่งตามแผนตั้งเป้าใน 5 ปี จะบาลานซ์รายได้เป็น 50-20-30% ตามลำดับ
นายอำนาจ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์น้ำท่วมตอนนี้ อาจส่งผลในระยะสั้นและในบางพื้นที่เท่านั้น และอาจจะกลับมามีความต้องการซื้อทดแทนกับของเสียหายไป แต่ในภาพรวมไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขาย ส่วนโครงการเงินดิจิทัลมองว่าอาจจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อปลายปีได้บ้าง สำหรับแอลจีแม้ยอดขายสินค้าจะเติบโตมากกว่าตลาด แต่เนื่องจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อไม่ดี ทำให้ต้องมีการปรับเป้าเติบโตของรายได้ใหม่เป็น 7% จากเดิมที่มองไว้ 10% หรือทั้งปีนี้น่าจะมีรายได้แตะ 16,000 ล้านบาท
ล่าสุดแอลจีได้เปิดออฟฟิศแห่งใหม่ในโครงการ One Bangkok ภายใต้ธีม LG’s Next Chapter มาพร้อมโชว์รูมผลิตภัณฑ์นวัตกรรมล่าสุดของแอลจี กับบรรยากาศการทำงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค สู่การเป็นองค์กร Smart Life Solution Company เต็มรูปแบบ จากเทคโนโลยี AI เพื่อส่งมอบ ‘นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ให้แก่ลูกค้า
“แอลจีเดินทางเข้าสู่ปีที่ 37 ในตลาดประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการรักษาจุดยืนเรื่องการส่งมอบนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า ประกอบด้วยการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า การสร้างนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นจุดศูนย์กลาง และการส่งมอบความอบอุ่นที่สร้างพลังแห่งรอยยิ้มให้แก่ทุกคน ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มทั้งผู้บริโภค ลูกค้าองค์กรธุรกิจ และลูกค้าออนไลน์ เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”
โดยแนวทางการดำเนินงานหลังจากนี้จะเน้นประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI หรือ “ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence)” กับผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และบริการต่างๆ เช่น โซลูชัน ‘LG AI Brain’ ที่ใช้วิเคราะห์ ตัดสิน และผสานการทำงานของอุปกรณ์แอลจีเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงแอปพลิเคชัน LG ThinQ™ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยี Affectionate Intelligence ที่เป็นฮับ AI อันล้ำสมัย เชื่อมต่อผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ของแอลจีตั้งแต่สมาร์ททีวี เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่นๆ ของแอลจี ด้วยฟังก์ชันต่างๆ และที่สำคัญ คือ เรื่องของวัฒนธรรมองค์กรเพื่อนำเสนอนวัตกรรมชีวิตที่ดีกว่า ย้ำแนวคิด‘Life’s Good.’
