xs
xsm
sm
md
lg

"อีอีซี" ปักธงปี 68 คิกออฟศูนย์ซ่อม MRO อู่ตะเภา ชง ครม.ล้มแผนเดิมชี้เปิดใหม่การบินไทยยังมีโอกาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อีอีซี" ตั้งเป้าปี 68 คิกออฟศูนย์ซ่อม MRO อู่ตะเภา จ่อชงยกเลิกมติ ครม. ปี 61 ดึงพื้นที่ 210 ไร่คืน เร่งสรุปแนวทางหาผู้ประกอบการใหม่ กรณีมีน้อยรายอาจให้ยื่นข้อเสนอแทนประมูล ชี้การบินไทยยังมีโอกาส ด้านบางกอกแอร์เวย์สยอมรับ การบินไทยชวนร่วมลงทุน แต่ยังต้องดูเงื่อนไขก่อน

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (Maintenance Repair and Overhaul : MRO) ในขณะนี้ อีอีซีเตรียมเสนอขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2561 ที่ให้สิทธิ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการ MRO อู่ตะเภา บนพื้นที่ 210 ไร่ เนื่องจากการบินไทยไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว และทางแอร์บัสมีการถอนตัวไป แนวทางนี้จึงไม่สามารถทำได้ ซึ่งต้องรอให้มีการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ประธานบอร์ด กพอ.) คนใหม่ก่อน จากนั้นจะเร่งเสนอไปตามขั้นตอน

ทั้งนี้ เมื่อ ครม.เห็นชอบยกเลิกมติ ครม.ปี 61 อีอีซีจะนำพื้นที่มาเปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบการโครงการ MRO โดยมีเป้าหมายเริ่มดำเนินการในปี 2568 เพื่อให้ MRO แล้วเสร็จพร้อมหรือก่อนที่สนามบินอู่ตะเภาจะเปิดให้บริการ เพราะเมื่อทางวิ่งเส้นทางที่ 2 (รันเวย์ 2) ก่อสร้างเสร็จ ส่วนของ MRO ก็สามารถให้บริการได้ทันทีเนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับส่วนของอาคารผู้โดยสาร ซึ่งจะทำให้ สนามบินอู่ตะเภามีบริการที่ครบวงจร และรองรับความต้องการซ่อมบำรุงอากาศยานภายในประเทศอีกด้วย

@ผู้ประกอบการน้อยราย อาจเปิดให้ยื่นข้อเสนอแทนประมูล

นายจุฬากล่าวว่า จากการพูดคุยกับการบินไทยล่าสุด แจ้งว่าคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยให้เดินหน้าโครงการ MRO เพราะมองว่าธุรกิจซ่อมบำรุงอากาศยานจะสร้างรายได้ให้การบินไทย และบริษัทมีความพร้อมดำเนินโครงการ โดยอาจจะร่วมกับสายการบินคนไทย และทราบว่าการบินไทยได้พูดคุยกับบางกอกแอร์เวย์สไปบ้างแล้ว ซึ่งอีอีซีเห็นว่าคนไทยควรมีส่วนในโครงการ MRO อู่ตะเภา เพราะจะทำให้สายการบินของคนไทยมีศูนย์ซ่อมเครื่องบินของตัวเองไม่ต้องนำเครื่องบินไปซ่อมต่างประเทศ เป็นการสร้างแต้มต่อทางอุตสาหกรรมด้วย แต่หากเป็นต่างชาติลงทุนหมดก็จะแปลก เพราะคนไทยเป็นลูกค้าใช้บริการเสียค่าซ่อมเงินออกนอกประเทศ กลายเป็นโครงการไม่ได้ช่วยคนไทยและประเทศไทยเลย

ส่วนรูปแบบการคัดเลือกผู้ลงทุน MRO อู่ตะเภานั้นอีอีซีจะต้องสอบถามความเห็นผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุด หลักการคือ เมื่ออีอีซีขอยกเลิกมติ ครม.เพื่อนำพื้นที่คืนมา และขอครม.นำพื้นที่เปิดประมูลให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมดำเนินการ เป็นการให้เช่าพื้นที่ ซึ่งตามระเบีบบอีอีซี การนำทรัพย์สินหาประโยชน์จะต้องประมูล แต่อาจจะไม่ใช้วิธีประมูลได้ หากมีผู้ประกอบการน้อยราย อาจใช้วิธีเปิดให้ผู้สนใจให้เข้ามายื่นข้อเสนอ

“เนื่องจากผู้ที่เข้ามาลงทุนก็ต้องมีลูกค้าจึงจะคุ้มค่า MRO อู่ตะเภาจะเป็นฐานใหญ่ซ่อมบำรุงอากาศยาน ซึ่งจะมีสายการบินของประเทศไทยเป็นลูกค้าหลัก ซึ่งนอกจากการบินไทยแล้วยังมีสายการบินเวียตเจ็ท ที่มีฝูงบินขนาดใหญ่ เคยมาคุยกับอีอีซี แสดงความสนใจ MRO เช่นกัน ซึ่งสายการบินต้นทุนต่ำ ใช้เครื่องบินลำตัวแคบ คือ แอร์บัส A 320 และโบอิ้ง B 737 จำนวนมาก และมีปัญหาต้องหาศูนย์ซ่อมตามวงรอบ ศูนย์ซ่อมใกล้สุดคือ สิงคโปร์ และจีน แต่ทั้งสองแห่งก็คิวจองเต็มมาก ส่วนมาเลเซียก็เป็นซ่อมเล็กกว่า จึงรองรับไม่ไหว คิวรอซ่อมยาวบางครั้งหลุดวงรอบการซ่อมกลายเป็นปัญหา”


@รวบสัญญาเช่าเดียว 210 ไร่

เลขาฯ อีอีซีกล่าวว่า MRO พื้นที่ 210 ไร่ต้องเป็นแพกเกจเดียว ไม่ควรแบ่งเพราะจะมีผลต่อการบริหารพื้นที่ส่วนกลาง ในมุมของการบินไทยอาจจะไปหาพาร์ตเนอร์ต่างชาติที่มีเทคโนโลยีด้านซ่อมบำรุงอากาศยานต่อเนื่องที่นอกเหนือจากการซ่อมเครื่องยนต์ด้วย เช่น งานพ่นสี งานปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อทำให้ MRO อู่ตะเภาเป็นนิคมอุตสาหกรรมการบินที่มีการซ่อมบำรุงครบวงจร ดังนั้น การบินไทยยังมีโอกาส เพราะมีฝูงบินของตัวเองจำนวนมากที่สุด แต่จะไม่ได้สิทธิ์เหมือนเดิม จะต้องเข้ามาในรูปแบบที่อีอีซี กำหนดยื่นข้อเสนอใหม่ ซึ่งเมื่อเทียบกับ ศูนย์ซ่อมเครื่องบินที่ดอนเมืองกับสุวรรณภูมิ อู่ตะเภา มีค่าเช่าพื้นที่ต่ำกว่า 3-4 เท่า

@บางกอกแอร์เวย์สขอดูเงื่อนไขร่วมการบินไทยลงทุน MRO

ด้าน นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA (สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส) กล่าวว่า ได้รับการทาบทามจากการบินไทยว่าสนใจร่วมลงทุนใน MRO พื้นที่ 210 ไร่หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ยังต้องพิจารณาก่อน เพราะต้องดูทั้งเงื่อนไข สัดส่วน และรูปแบบร่วมทุน แต่ยอมรับว่า MRO น่าสนใจ เพราะศูนย์ซ่อมใหญ่ในประเทศยังไม่มี เครื่องบินต้องไปซ่อมสิงคโปร์​ มาเลเซีย

@ผนึก UTA ผุดศูนย์ซ่อมพื้นที่ระหว่าง 2 รันเวย์

ในขณะที่โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเมืองการบินซึ่ง มีบริษัท อู่ตะเภาอินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) เป็นผู้รับสัมปทาน และบางกอกแอร์เวย์สถือหุ้นอยู่ด้วยนั้น ในพื้นที่สนามบินส่วนที่ UTA ได้สัมปทานไม่เกี่ยวกับพื้นที่ 210 ไร่ จะมีพื้นที่ด้านซ่อมบำรุงอากาศยานช่วยสนับสนุนกิจกรรมการบิน อยู่ตรงกลางระหว่างรันเวย์ 1 กับ 2 ซึ่งจะมีการจัดสรรสำหรับเป็นโรงซ่อมเครื่องบิน โรงพ่นสีได้ ซึ่งตรงนี้จะรองรับเครื่องบินของบางกอกแอร์เวย์สเองอยู่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น