BLC เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ยา เร่งจดทะเบียนยาสามัญตลาดตปท.

ผู้จัดการรายวัน360 ่- BLC โชว์ความสำเร็จส่งนวัตกรรมสมุนไพรเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ และบรรจุเข้าสู่บัญชียานวัตกรรม พร้อมประเมินอุตสาหกรรมยาครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง เล็งเปิดตัว BKD VIVA ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เดินหน้าขยายช่องทางการจัดจำหน่าย รับเทรนด์ Pharma Tech เติบโต


ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการนำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากสมุนไพรไทย ซึ่งเป็นโลชันทารักษาปลายประสาทที่ผลิตจากสมุนไพรนวัตกรรมจากพริกบรรจุเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ จะทำให้ผู้ป่วยสามารถเบิกจ่ายผ่านสิทธิขั้นพื้นฐานของรัฐบาลได้

นอกจากนี้ ยารักษาไวรัสตับอักเสบบียังได้รับการบรรจุเข้าสู่บัญชียานวัตกรรม ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยาในประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้มีการจัดสรรงบประมาณอย่างน้อย 30% ของค่ายาที่ใช้จ่ายประจำปีในกลุ่มของบัญชีนวัตกรรม เพื่อซื้อยาที่ผลิตขึ้นโดยคนไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการวิจัยและพัฒนายาในประเทศ และสร้างความมั่นคงทางยาให้กับประเทศในระยะยาว

สำหรับแผนงานครึ่งหลังปี 2567 บริษัทฯมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ สำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯ วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ เน้นช่องทางออนไลน์

ส่วนตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าขยายการจดทะเบียนยาสามัญ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในฮ่องกง ขณะที่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เริ่มจดทะเบียนยาสามัญใหม่สำหรับรักษาอาการผมร่วงในผู้ชาย โดยใช้กลยุทธ์ B2P (Business to Professional) ผ่านการขายตรงให้กับโรงพยาบาลและคลินิก

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมรุกตลาดออนไลน์ผ่านการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม โดยตั้งบริษัท บีเคดี วีว่า จำกัด (BKD VIVA) ขยายช่องทางการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ Facebook, Shopee, Lazada และ TikTok เน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ด้วยกลยุทธ์ไลฟ์สดเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การขยายช่องทางออนไลน์นี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับบริษัทฯ ในอนาคต นอกจากนี้ BKD VIVA ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหมjq และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางออนไลน์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLC กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมสุขภาพไทยในครึ่งปีหลังมีทิศทางสดใส โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยทั้งเทรนด์ Pharma Tech กำลังสร้างผลกระทบเชิงบวก ช่วยยกระดับการรักษา การจัดการยา และลดเวลาในการตรวจสอบประวัติผู้ป่วย ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพโดยรวม

ประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาศูนย์ Health Tech เพื่อก้าวสู่การเป็น Medical Hub ของภูมิภาค นอกจากนี้ นโยบายฟรีวีซ่าของภาครัฐคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพ โดยเฉพาะในด้านสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่และภูมิปัญญาดั้งเดิมนี้ มีแนวโน้มที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพในประเทศไทย ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมสุขภาพไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน