- 1. •*วันที่ 6 กันยายนนี้ จะมีการสรุปผลสอบข้อเท็จจริงสาเหตุอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม
- 2. •*การลงโทษ ใครจะได้รับการลงโทษจะขึ้นอยู่กับผลสอบทางการ
- 3. •*ผู้รับเหมา ต้องรับผิดชอบทั้งทางอาญาและค่าเสียหายโครงสร้าง
- 4. •*กรมราง จะหารือกับสภาวิศวกรเพื่อหามาตรการป้องกันเหตุการณ์ซ้ำ
“สุรพงษ์” เผย 6 ก.ย.นี้สรุปผลสอบข้อเท็จจริงสาเหตุอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม ลงโทษใครให้รอผลสอบทางการ ชี้ผู้รับเหมารับผิดชอบความเสียหายทั้งทางอาญาที่มีผู้เสียชีวิต และโครงสร้าง ด้านกรมรางเตรียมถกสภาวิศวกร พร้อมหามาตรการป้องกันเกิดซ้ำ
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด พร้อมทั้งรายงานสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ให้หยุดการก่อสร้างไว้ก่อนนั้น ขณะนี้มีข้อมูลแล้ว และคณะทำงานสอบสวนอุบัติเหตุการขนส่งทางราง ที่มีอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นประธาน จะมีการประชุมในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย. 2567 ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้น
“ขอให้รอคณะทำงานฯ ประชุมก่อนจะมีข้อสรุปเป็นทางการ เรื่องนี้มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ทั้งบุคคลและ บริษัทเอกชน ดังนั้นหากพูดอะไรไปก่อนแล้วข้อมูลผิดพลาดหรือไม่ตรงกับผลการสอบข้อเท็จจริงจะมีความเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้” นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์กล่าวว่า กรณีอุโมงค์คลองไผ่เป็นอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งบริษัทผู้รับเหมานั้นจะมีประกันภัยต่างๆ ดูแลรับผิดชอบ ทั้งกับผู้เสียชีวิต และโครงสร้างที่เสียหาย ซึ่งกรณีมีผู้เสียชีวิต เป็นคดีอาญาที่พนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งจะมีการเรียกข้อมูล จากผู้เกี่ยวข้องไปสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนกระทรวงคมนาคมก็จะมีกระบวนการตรวจสอบในทางสัญญาและวิศวกรรม
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า คณะทำงานสอบสวนอุบัติเหตุการขนส่งทางราง ซึ่งมีผู้แทนจากสภาวิศวกร และผู้เชี่ยวชาญทางวิศวกรรม จะประชุมหาสาเหตุที่ทำให้อุโมงค์เกิดทรุดตัวในระหว่างก่อสร้าง และหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งจะมีความชัดเจนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ บริษัท เนาวรัตน์ พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ รฟท. ได้ให้ผู้รับเหมาจีนเข้ามารับช่วงงานต่อนั้นจะมีการตรวจสอบหรือไม่ว่าเป็นการดำเนินงานถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ นายพิเชฐกล่าวว่า จะมีการตรวจสอบเช่นกัน ทั้งนี้ กรมราง ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลระบบราง มุ่งเน้นให้คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้ปฏิบัติงาน และให้ยึดถือการปฏิบัติงานตามคู่มือมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญ กรณีที่เกิดขึ้นนี้จะต้องหาสาเหตุและมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก