- - ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
- - แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
กนอ.โชว์ยอดขายและเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมปีงบประมาณ 2567 อยู่ที่ 6,174 ไร่ ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มั่นใจประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในปี 2567 กนอ.ประสบความสำเร็จในการขาย/เช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมได้ถึง 6,174 ไร่ (ณ ต.ค. 66-ก.ค. 67) ถือเป็นสถิติใหม่ (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์นั้นสะท้อนถึงความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่สูงมาก โดยความสำเร็จนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของภาคส่วนต่างๆ กนอ. และพันธมิตรในการดึงดูดนักลงทุน รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้ กนอ.พัฒนาประสิทธิภาพการบริการ และการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน และบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ
“เป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนของ กนอ.สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศ กนอ.และนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินการจะพยายามคัดเลือกประเภทกิจการที่จะเข้ามาลงทุนให้ตรงความต้องการของประเทศ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่ออุตสาหกรรม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อมั่นว่า กนอ.จะร่วมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนได้”
นายวีริศกล่าวว่า กนอ.ให้ความสำคัญของการปรับองค์กรสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการนำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้ในการทำงานอย่างเต็มรูปแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดย กนอ.ทำ Digital Transformation มาตั้งแต่ช่วง Covid-19 โดยพยายามพัฒนาไปสู่ระบบ Big Data และ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญ รวมถึงระบบ Digital Twin เพื่อบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขยายผลจากนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ไปยังนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ.เอง 13 แห่ง นอกจากนี้ ยังกำหนดรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สามารถตอบโจทย์ด้านการใช้ระบบสาธารณูปโภค ด้วยพลังงานสะอาดและคาร์บอนต่ำ หรือ Smart IE. รวมถึงพัฒนากลไกต่างๆ เพื่อบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกทั้งระบบ ที่สำคัญ กนอ.ยังดำเนินการจัดตั้ง I-EA-T Academy เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมให้มากที่สุดด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ กนอ.กำลังดำเนินแคมเปญ “NOW Thailand” เพื่อกระตุ้นและตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับนักลงทุนต่างชาติ กนอ.และทุกภาคส่วนจะร่วมกันพัฒนาศักยภาพของประเทศ โดยจะมุ่งเน้นดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศ พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยต่อไป”