xs
xsm
sm
md
lg

ALS ขยายโรงงานเครื่องซักผ้าในไทย รับตลาดสะดวกซักเอเชียแปซิฟิกพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ (ALS) เผยทิศทางตลาดร้านสะดวกซักในเอเชียแปซิฟิกโตเพิ่มตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการมากขึ้น ประกาศลงทุนกว่า 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐขยายโรงงานในประเทศไทย เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการทั้งนักลงทุนและผู้ใช้บริการ และเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจระดับภูมิภาค เปิดตัวสินค้าใหม่ เครื่อง Combo และ Touch screen - New Aesthetic Design เครื่องอุตสาหกรรมซักล่างอบบน แบรนด์ Primus และ Ipso หวังเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด


นายเบนจามิน ลีโอ ดอบส์ กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี (Alliance Laundry Systems LLC) หรือ ALS ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ร้านสะดวกซักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) นับว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูง มีการเติบโตในหลายประเทศ อาทิ ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่มีการขยายตัวของจำนวนร้านสะดวกซักเพิ่มมากขึ้น

เนื่องด้วยบรรดานักลงทุนต่างมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งมีปัจจัยบวก มาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงหันมาใช้บริการร้านสะดวกซักกันเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกันที่ผู้บริโภคต่างหันมาใช้บริการกันมากขึ้น เพราะเล็งเห็นถึงความสะดวกสบาย อีกทั้ง ช่วยประหยัดเวลา จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการในไทยทำการขยายทั้งขนาดของร้านรวมถึงจำนวนเครื่อง

“ในปี 2568 เราคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดร้านสะดวกซักยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมของตลาด APAC ในปี 2567 นี้ จำนวน 4,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะบุกตลาดทั้งในประเทศเวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งนับเป็นกลุ่มตลาดใหม่ และเพื่อรองรับต่อการเติบโตของ ALS บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับขยายห้องปฏิบัติการใหม่ในโรงงานประเทศไทย เพื่อขยายขีดความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ และบริการที่ดีที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด แม้ปัจจุบันจะต้องเจอกับปัญหาสินค้าลอกเลียนก็ตาม แต่ด้วยจุดแข็งของ ALS ที่มีประสบการณ์มาถึง 116 ปี ผู้บริโภคจึงสามารถมั่นใจในคุณภาพสินค้าของเราได้อย่างแน่นอน”


นายสุกรี กีไร ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี กล่าวว่า สำหรับในประเทศไทย ALS นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีร้านสะดวกซักที่ใช้เครื่องของ ALS ทั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ 3,489 ร้าน และคาดว่าเพิ่มขึ้นอีก 9 % ภายในสิ้นปี 2567 โดย ALS สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 70% ของจำนวนร้านสะดวกซักที่อยู่ทั้งหมด 5,007 ร้าน ของมูลค่าตลาดรวมประมาณ 13,500 ล้านบาท

ทั้งนี้เพราะผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างระหว่างการซักผ้าที่บ้านกับที่ร้านสะดวกซัก ประกอบกับสภาพอากาศตอนนี้ที่เป็นหน้าฝนจึงไม่เอื้ออำนวยต่อการตากผ้า ทำให้มีผู้เข้าใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น กลุ่มลูกค้าประจำที่มีการลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับทางร้าน เพื่อรับโปรโมชั่นต่างๆ โดยกลุ่มนี้แทบจะไม่กลับไปใช้เครื่องซักผ้าที่บ้านอีกเลย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 65% จากจำนวนผู้เข้าใช้บริการทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 1.85 ล้านคน, กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการบ้างเป็นครั้งคราวที่มีอยู่ราวประมาณ 30% และกลุ่มลูกค้าใหม่ประมาณ 3% - 5% ส่วนในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ ร้านสะดวกซักกลายเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเช่นเดียวกับร้านสะดวกซื้อที่ทุกคนจะเข้าใจบริบทและความสำคัญว่าสามารถทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นง่ายขึ้น

“เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปี ALS ประเทศไทย บริษัทฯ ได้จัดงาน Wealth Investment 2024 : Wealth Transfer ภายใต้คอนเซ็ปต์ ESG Sustainability โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์โดยตรงมาแลกเปลี่ยนมุมมองในการทำธุรกิจ การให้ความรู้ทั้งการบริหารจัดการและทิศทางในอนาคต โดยปัจจุบัน ALS มีตัวแทนจำหน่ายเครื่องซักอบผ้าในประเทศไทยภายใต้ 4 แบรนด์ จำนวน 9 ราย ได้แก่ Speed Queen 4 ราย, Huebsch 1 ราย, Ipso 2 ราย, Primus 2 ราย และกลุ่ม OPL (On-Premise Laundry) สำหรับกลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล โรงงานซักผ้าขนาดใหญ่ จำนวน 4 ราย รวมทั้งหมด 13 ราย และเรายังมีเครื่องซักเครื่องอบ Touch screen รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Aesthetic Design ที่พร้อมออกวางจำหน่ายในไตรมาสนี้ภายใต้แบรนด์ Primus และ Ipso”


นายพาเวล
ไมโน ผู้จัดการผลิตภัณฑ์
บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้
ซิสเต็มส์ แอลแอลซี

กล่าวเพิ่มเติมว่า “ALS
ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่
เครื่องCombo
2
รุ่น
ขนาด13
กก.
และ
24
กก.
ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพใช้เวลาเพียง
1
ชั่วโมง
ก็ทั้งซักและอบได้ในเครื่องเดียว
โดยไม่จำเป็นต้องย้ายเสื้อผ้าจากเครื่องซักไปยังเครื่องอบให้ยุ่งยาก
จุดเด่นคือ ประหยัดน้ำ,
ประหยัดไฟและประหยัดแก๊ส
เหนือกว่าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน
สำหรับตัวเครื่องผลิตจากวัสดุระดับพรีเมียม
แผงด้านหน้าทำจากสแตนเลส
ระบบหน้าจอสัมผัสTouch
Screenขนาด
7
นิ้ว
รองรับได้ถึง34
ภาษา
ฟังก์ชันใช้งานง่าย
ซึ่งเครื่องรุ่นนี้นับเป็นนวัตกรรมที่ดีสุดของ
ALS
ในปัจจุบัน
และด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและกะทัดรัด
จึงสามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องพื้นที่และการประหยัดพลังงาน”

“ปีนี้นอกจากการขยายโรงงานในเมืองไทยและการเปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว
ALS
ยังให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย
สำหรับในส่วนของโรงงานนั้นได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ถึง
40%
พร้อมทั้งเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า
(EV)
และติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
รวมถึงยังมีแผนที่จะติดตั้งระบบรีไซเคิลน้ำเพื่อรองรับการดำเนินงานในห้องปฏิบัติการอีกด้วย”
นายเบนจามิน
กล่าว










กำลังโหลดความคิดเห็น