ผู้จัดการรายวัน 360 – “เพลย์บอย” เซ็นสัญญาจ้างไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ส์ผลิตและขายถุงยางเพลย์บอยรายเดียวทั่วโลกยกเว้นเม็กซิโก ยาว 30 ปี ฝั่งไทยนิปปอนฯเตรียมลงทุนโรงงานใหม่ที่ชลบุรีอีก 500-800 ล้านบาท เพิ่มกำลังผลิตเป็น 3,000 ล้านชิ้นต่อปี
นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (ทีเอ็นอาร์) ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยรายใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาให้เป็นผู้ผลิต ส่งเสริมการขาย และจัดจำหน่ายถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์สารหล่อลื่นให้กับแบรนด์ Playboy ทั่วโลกยกเว้นเม็กซิโก เป็นเวลา 30 ปีนับจากปี2567นี้
นายวิศิษย์ ฐิรายุวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็นอาร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัย เปิดเผยว่า สำหรับความร่วมมือครั้งนี้จะเริ่มผลิตและจำหน่ายในปี68 ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาท ใน 5 ปี โดยมาจากการขายเพลย์บอย 2,000 ล้านบาท ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท
นายอมรกล่าวเสริมว่า บริษัทได้เตรียมลงทุนประมาณ 500-800 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่บนพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ในปลายปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหาพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี การสร้างโรงงานใหม่จะทำให้กำลังการผลิตทั้งหมดของถุงยางอนามัยจะเพิ่มขึ้นจาก 2,000 ล้านชิ้นต่อปีในปัจจุบันเป็น 3,000 ล้านชิ้นต่อปี หากโรงงานใหม่แล้วเสร็จ โดยคาดว่าภายใน 5 ปีกำลังการผลิต 30-40% ของกำลังการผลิตทั้งหมดจะมาจากจากแบรนด์เพลย์บอย
ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ ก่อตั้งมานานกว่า 31 ปี ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเอง และแบรนด์อื่นๆ ส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบันตลาดถุงยางอนามัยทั่วโลกมีมูลค่าถึง 200,000 ล้านบาท เติบโต 5-7% โดย 5 ประเทศที่ใช้ถุงยางอนามัยมากที่สุด ได้แก่ จีน มีปริมาณการใช้ปีละ 7,000 ล้านชิ้น มูลค่าตลาด 8,000 ล้านบาท ตามด้วย อเมริกา อินเดีย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ขณะที่ไทยมีปริมาณการใช้น้อยกว่าตลาดโลกปัจจุบันมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท เติบโตปีละ 7% ใกล้เคียงดับตลาดโลก
ล่าสุด บริษัทจึงได้กลับมาต่อสัญญากับเจ้าของแบรนด์เพลย์บอย ในรอบ 4 ปี เพื่อผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยพรีเมียมยี่ห้อ เพลย์บอย และเจลหล่อลื่นยาว 30 ปี ทั้งในไทยและทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน รวมถึงตลาดใหม่อย่าง อินเดีย เวียดนาม แอฟริกา โดยจับกลุ่มหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ซึ่งขณะนี้มีพฤติการใช้ถุงยางอนามัยอายุตั้งแต่ 13 ปี จากเมื่อ 10 ปี เริ่มใช้อายุ 17-18 ปี อีกทั้งเชื่อว่าจากสังคมคนโสดและแอลจีบีทีคิว จะยิ่งทำให้ตลาดถุงยางอนามัยมีโอกาสเติบโตเพิ่มเป็นปีละ 8-10%
Mr. Ben Kohn ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจาก PLBY Group, Inc. เจ้าของเครื่องหมายการค้า Playboy กล่าวว่า PLBY Group., Inc. เชื่อมั่นในความร่วมมือระยะยาวกับ TNR ว่า จะนำพาถุงยางอนามัยแบรนด์ Playboy ให้สามารถเข้าจัดจำหน่ายในตลาดทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากถุงยางอนามัยแล้วเพลย์บอยยังมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อาทิเช่น เจลหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชา (CBD) และการพัฒนาผลิตถุงยางอนามัยให้บางยิ่งขึ้นกว่าที่มีขายในปัจจุบัน