นายวรพันธ์ เขมะสิงคิ กรรมการผู้จัดการ โอทิส ประเทศไทย กล่าวถึง ลิฟต์โดยสารรุ่นใหม่นี้ต่อยอดการพัฒนามาจากลิฟต์รุ่น Gen2 ซึ่งได้รับการยอมรับในเรื่องของการออกแบบและเทคโนโลยีสายพานแบบแบนและเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของโอทิส สำหรับลิฟต์ Gen3 นี้มีทั้งรุ่นที่มีห้องเครื่องหรือไม่มีห้องเครื่อง เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น อาคารเชิงพาณิชย์ ที่พักอาศัย โรงแรม โรงพยาบาลและอุตสาหกรร ทั้งนีัประเทศไทยยังคงเดินหน้าเรื่องการสร้างเมืองอัจฉริยะให้เพิ่มมากขึ้นในเขตเมืองใหญ่ การลงทุนในสาธารณูปโภคแบบอัจฉริยะก็เป็นสิ่งจำเป็น
“บริษัทโอทิส มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มของลิฟต์รุ่น Gen3 ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์และทำงานสอดคล้องกันอย่างดีกับระบบของตัวอาคาร ลิฟต์รุ่นใหม่นี้จะทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้ลิฟต์โดยสารที่ยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ก้าวหน้าไปอีกระดับ”วรพันธ์ เขมะสิงคิ กรรมการผู้จัดการ โอทิส ประเทศไทย
สำหรับการยกระดับการเชื่อมต่อให้ก้าวไปอีกขั้นลิฟต์รุ่น Gen3 ที่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล IoT (Internet of Things) ของ Otis ONE™ จะช่วยตรวจสอบการทำงานและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ตลอด 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์ ข้อมูลดังกล่าวสามารถใช้ได้ทันทีผ่านพอร์ทัลและแอปพลิเคชันเพื่อให้มองเห็นการทำงานของลิฟต์โดยสารเพื่อช่วยให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การมองเห็นอุปกรณ์การทำงานของลิฟต์ได้อย่างชัดเจนยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญภาคสนามของโอทิสตรวจสอบการทำงานของระบบและอุปกรณ์ได้จากระยะไกล สามารถระบุถึงปัญหา และแจ้งถึงชิ้นส่วนที่ต้องเตรียมการซ่อมล่วงหน้า เพื่อทำให้ลิฟต์สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติทันท่วงที
ลิฟต์โดยสารรุ่น Gen3 นี้จะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ของผู้ใช้ให้มากกว่าเดิมด้วยโซลูชันต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมา ประกอบด้วย
• APIs (Application Programming Interface) ที่ใช้บนคลาวด์ ช่วยให้การผสานการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์การจัดการอาคาร หุ่นยนต์อัตโนมัติ และเครื่องมือและบริการอื่นๆ ได้อย่างราบรื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวอาคาร และสามารถผสานการทำงานกับเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่างไร้รอยต่อ
• จอแสดงผลในลิฟต์ Otis eView™ โดยปกติจะนำเสนอสาระและความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสาร รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับอาคาร สภาพอากาศ ข่าวสาร และวิดีโอ ในกรณีฉุกเฉินสามารถเชื่อมต่อระหว่างผู้โดยสารกับศูนย์บริการ OTISLINE® ได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทางวิดีโอแชท เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร
• เทคโนโลยี Compass®360 วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ลิฟต์โดยสารและจัดกลุ่มผู้โดยสารที่ไปยังปลายทางเดียวกัน เพื่อลดจุดที่ต้องหยุดและพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้นถึง 50% โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน
• แอปพลิเคชัน Otis eCall™ Plus ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเรียกลิฟต์และกำหนดชั้นจอดจากสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องกดปุ่มเรียกลิฟต์
โดยมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมและยั่งยืนเพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของโอทิสในด้านความยั่งยืน ลิฟต์รุ่น Gen3 จะขับเคลื่อนด้วย Otis ReGen™ มีไฟ LED และโหมด Sleep เพื่อลดการใช้พลังงานและคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของลิฟต์ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่ทันสมัยและปรับการใช้งานเฉพาะตัวให้เหมาะกับผู้โดยสาร พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในด้านสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของผู้โดยสาร
• การออกแบบห้องลิฟต์ Ambiance มีมากกว่า 400,000 รูปแบบ ผสมผสานแนวคิดจากธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และงานศิลปะจากวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ภายใต้แนวคิดผสมผสาน "การเดินทางไปสู่โลกอื่น”
• แผงควบคุมลิฟต์ Otis PURE™ แผ่นกระจกที่มีดีไซน์ทันสมัย พร้อมด้วยสแตนเลสผิวขัดลาย ออกแบบเน้นการใช้งานง่าย มีไฟชนิดชั้น LED ที่มองเห็นได้ง่ายและตัวเลือกการปรับแต่งที่ตอบโจทย์การใช้งานของบุคคลหลากหลายประเภท
• เครื่องฟอกอากาศในลิฟต์ Otis Cab Air Purifier ใช้เทคโนโลยีไอออนชนิด bipolar เพื่อลดจำนวนแบคทีเรียและไวรัสในอากาศภายในลิฟต์อย่างมีนัยยะสำคัญ
ปัจจุบัน โอทิสเชื่อมต่อและเจริญก้าวหน้าในโลกที่พัฒนาขึ้น รวดเร็วขึ้น ฉลาดขึ้น เราเป็นผู้นำระดับโลกในการผลิต ติดตั้ง และให้บริการลิฟต์และบันไดเลื่อน และเคลื่อนย้ายผู้คน 2.3 พันล้านคนต่อวันและให้บริการบำรุงรักษามากกว่า 2.3 ล้านยูนิตทั่วโลก – นับเป็นพอร์ตบริการที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม ฃึ่งจะพบอาคารที่พักอาศัย อาคารเชิงพาณิชย์ ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและทุกที่ที่มีผู้คนเดินทาง Otis มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่รัฐคอนเนตทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพนักงานทั้งหมด 71,000 คน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญภาคสนามอีก 42,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อจัดการกับความต้องการหลากหลายของลูกค้าและผู้ใช้บริการของมากกว่า 200 ประเทศและดินแดน