PEA ออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนเป็นครั้งแรก วงเงินรวม 1,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.67% ต่อปี โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการจัดจำหน่าย โดยนำเงินไปใช้ในโครงการตอบโจทย์ความยั่งยืน เช่น โครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าแบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Micro Grid) บนพื้นที่เกาะพะลวย จ.สุราษฎร์ธานี
นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นประธานแถลงการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA Sustainability Bond for Better Life โดยมีนางชนันภรณ์ พิศิษฐวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) Mr. Anouj Mehta Country Director ADB Thailand Resident Mission Southeast Asia Department ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) Mr. Thomas Leonard Head of Section, Sustainability Services Supply chain& product assurance DNV (Thailand) Co.,LTD นางสาวสุญาณี ภูริปัญญาวานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ร่วมแสดงความยินดี
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนเป็นครั้งแรก โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ดำเนินการจัดหาเงินกู้ โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการจัดจำหน่าย อายุ 5 ปี วงเงินรวม 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.67% ต่อปี ภายใต้ Sustainable Finance Framework ซึ่งธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) เป็นที่ปรึกษาการจัดทำและให้การรับรองการออก Sustainability Bond โดย DNV (Thailand) Co.,Ltd. เป็นผู้สอบทานภายนอกที่เป็นอิสระ (Second Party Opinion) ตามมาตรฐานด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานแห่งแรกที่จัดทำ Framework สอดคล้องตามมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของอาเซียน (ASEAN Taxonomy)
โดยเงินที่ได้มาลงทุนในโครงการที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน ดังนี้คือ โครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี, โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าแบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Micro Grid) บนพื้นที่เกาะพะลวย จ.สุราษฎร์ธานี
การออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนของ PEA ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบัน (Institutional Investor :II) ที่สนใจลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนสามารถเสนอขายได้เต็มวงเงิน และมียอดจองซื้อสูงถึง 6 เท่าของวงเงินที่เสนอขาย นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ตอกย้ำการนำองค์กรมุ่งสู่เส้นทาง Green Finance สอดรับความมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2037 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2065 ตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
นางชนันภรณ์ พิศิษฐวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า สบน.พร้อมสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจต่างๆ ออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนเพื่อลงทุนในโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว
นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ความสำเร็จในการออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนของ PEA รุ่นแรกในครั้งนี้จะช่วยจุดประกายให้รัฐวิสาหกิจอื่นๆ สนใจการออก ESG bond มากขึ้น
นายโกสินทร์ พึงโสภณ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสภาคการเงิน ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อัตราการเติบโตของตลาดตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้น 43% อย่างไรก็ตาม ยังมีสัดส่วนเพียง 2.1% ของตลาดตราสารหนี้ทั้งหมด โดยในปี 2023 ตลาดตราสารหนี้ในกลุ่มอาเซียน+3 เพิ่มขึ้น 28.6% จากปี 2022 แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาด ESG bond ในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นอีกในอนาคต