เต็มอิ่มกับกิจกรรมหลากหลาย ประทับใจกับเรื่องราวแห่ง “สายน้ำ” ในโครงการตามพระบรมราโชบายด้านการพัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศ ภายในงาน “ลำนำนที วารีสมโภช” กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ต้องบอกว่า เป็นช่วงเวลา 3 วันที่เปี่ยมไปด้วยสีสันชีวิตชีวาซึ่งให้ทั้งความเพลิดเพลินและเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ สำหรับงาน “ลำนำนที วารีสมโภช” ซึ่งกลุ่ม ปตท. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชุมชนบางลำพูและบริเวณเขตพระนคร จัดขึ้น ณ บริเวณสวนสันติชัยปราการ ป้อมพระสุเมรุ ย่านบางลำพู เขตพระนคร เมื่อวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีพระราชปณิธานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาแหล่งน้ำซึ่งอยู่คู่กับวิถีชีวิตคนไทยเสมอมา
ท่ามกลางรอยยิ้มสดชื่นบนใบหน้าของประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ให้ความสนใจเข้าชมงานไม่ขาดสาย “ลำนำนที วารีสมโภช” มีกิจกรรมหลากหลายให้เข้าร่วมและชื่นชม ทั้งการแสดง แสง สี เสียง ที่ชวนให้ใจฟูและเบิกบาน ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่จะมีโอกาสสัมผัสได้ไม่ง่ายนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรมการล่องเรือบนเส้นทางสุดพิเศษ ชมบรรยากาศวิถีชีวิตชุมชนคลองบางลำพูที่ให้ความรู้สึกของการเที่ยวชมเมืองเก่า จากป้อมพระสุเมรุ ถึงป้อมพระกาฬ บริเวณภูเขาทอง วัดสระเกศฯ โดยมีมัคคุเทสก์เป็นผู้ให้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับคลองบางลำพู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “คลองรอบกรุง” คูเมืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองเพื่อเชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ในอดีต คลองบางลำพู นับว่ามีความสำคัญต่อผู้คนภายในพระนคร เพราะเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักของผู้คนในชุมชน และมีคลองสายอื่นเป็นเส้นทางสัญจรเชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่ใกล้เคียง จนเกิดเป็นโครงข่ายเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญ และในปัจจุบัน จากพระบรมราโชบายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงดำริให้พัฒนาและฟื้นฟูคลองบางลำพูให้กลับมาใสสะอาดและมีชีวิตชีวา ส่งผลให้ชุมชนที่อยู่อาศัยริมคลองทั้งสองฝั่งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ นับแต่อดีตจนปัจจุบัน คลองบางลำพูเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชุมชน เป็นย่านการค้าที่รองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของเกาะรัตนโกสินทร์
แน่นอนว่า พระบรมราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำ ใช่จะมีแค่เพียงที่คลองบางลำพู แต่ยังแผ่ขยายไปในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ดังที่เราจะได้เห็นในหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติทั้ง 2 เรื่องที่นำมาจัดฉายในงานนี้ คือเรื่อง “คาเฟ่” และ “รูปวาดจากอนาคต” ด้วยมุ่งหมายให้ประชาชนรับรู้ถึงโครงการตามพระบรมราโชบายเกี่ยวกับสายน้ำ จำนวน 10 โครงการทั่วประเทศ และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีพระราชปณิธานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความสุขที่ยั่งยืนของประชาชนชาวไทย
โดยหนังสั้นทั้ง 2 เรื่อง นำเสนอเรื่องราวผ่านวิถีชีวิตของคนไทยที่ผูกพันกับสายน้ำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตและเติมเต็มความสุข ซึ่งสายน้ำที่สำคัญหลายสายล้วนก่อกำเนิดมาจากพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์ไทยในทุกยุคสมัย และยังคงได้รับการ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” มาจวบจนถึงรัชกาลที่ 10
ทั้งนี้ นอกจากหนังสั้น ยังมีการจัดทำนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งนำเสนอโครงการตามพระบรมราโชบายเกี่ยวกับสายน้ำที่สำคัญทั่วประเทศ จำนวน 10 โครงการที่อยู่ในหนังสั้นเพื่อย้ำให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงนำความรู้และความมีวิสัยทัศน์มาพัฒนาประเทศในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ทรงสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาด้านแหล่งน้ำในปัจจุบัน และยังสามารถใช้ประโยชน์ของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
ขณะที่อีกหนึ่งกิจกรรมซึ่งทำให้คนที่เข้ามาชมงานรู้สึกว้าวอย่างมาก ก็คือ การแสดงแสง สี เสียง 3D Mapping เรื่อง “พรจากสายน้ำ” ที่นอกจากจะมาพร้อมกับเทคนิคอลังการน่าตื่นตา แต่เนื้อหาสาระยังบอกเล่าเรื่องราวที่ชวนประทับใจ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทยที่ผูกพันกับสายน้ำมาทุกยุคสมัย เมื่อเมืองขยายตัว ประชากรเพิ่มมากขึ้น สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แหล่งน้ำและคูคลองอาจจะถูกละเลย จนกระทั่งในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงมีพระบรมราโชบายเกี่ยวกับสายน้ำ ซึ่งทำให้ภาพความสุขของประชาชนหวนคืนมาอีกครั้ง ดั่งพรจากสายน้ำที่ส่องประกายให้ความสุขและความหวังตลอดมา จากรุ่นสู่รุ่นจวบจนปัจจุบัน
...บนลานกว้างและร่มรื่นในพื้นที่สวนสันติชัยปราการ ยังมีกิจกรรม Workshop ศิลปะเฉลิมพระเกียรติฯ บนผืนผ้าใบ และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ด้วยการนำเรื่องราวของหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติฯ เรื่อง “รูปวาดจากอนาคต” มาถ่ายทอดเป็นภาพวาดบนผืนผ้าใบขนาดยาว 10 เมตร สูง 3 เมตร เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบพระราชกรณียกิจด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้ร่วมรังสรรค์ภาพวาดแห่งอนาคต โดยการแต่งแต้มสีสันตามจินตนาการลงบนผืนผ้าใบ พร้อมวางแผนนำภาพที่ได้ไปต่อยอดเป็นกระเป๋าผ้าแคนวาสจำหน่ายเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อไป
นอกจากนี้ภายในงานยังได้จัดเตรียม Workshop ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมไทย เช่น ทำขนมไทยหาทานยาก และทำเรซิ่นลายดอกไม้ เป็นต้น
และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้ทุกคนเพลิดเพลินเจริญใจเป็นยิ่งนักคือการได้รับชมการแสดงจากเยาวชนชุมชนบางลำพู ที่มาร่วมสืบสานและอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมด้วยการแสดงชุดกลองสะบัดชัย รำโคมปะทีป รำกลองยาว รำสี่ภาค และระบำเทพบันเทิง นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีในสวนจากน้อง ๆ นักศึกษาคณะดุริยางคศาสตร์ ม.ศิลปากร (อะคูสติกแบนด์) วงดนตรีคนรุ่นใหม่ วง Paramount วง Penmanship และวง ATOMIC ปิดท้ายด้วยการแสดงเปิด Floor Swing Dance หรือฟลอร์เต้นสวิงที่สนุกสนานมีชีวิตชีวา
และเพราะเรื่องกินคือของมันต้องมี งานนี้ก็ไม่พลาดที่จะนำของกินเด็ด ๆ มาตั้งซุ้มจำหน่ายให้สายชิมได้ฟินกัน ทั้งอาหารสตรีทฟู้ดระดับมิชลิน ไกด์ ที่ผ่านการคัดสรรแล้วว่าโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมทั้งร้านอาหารเมนูเด็ดย่านบางลำพู ให้ผู้ชมงานได้เลือกชิมอร่อยอิ่มท้องท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล
สังเกตจากสีหน้าแววตาของผู้คนภายในงานซึ่งฉายแววความสุขสดชื่นแล้วก็ต้องบอกว่า “ลำนำนที วารีสมโภช” ตอบโจทย์ตรงใจของทุกคน เพราะนอกจากจะได้รับความรื่นรมย์อิ่มเอมกลับไปบ้านแล้ว สิ่งสำคัญคือการได้รับรู้เรื่องราวของแหล่งน้ำและสายน้ำซึ่งมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของผู้คน และได้รับการฟื้นฟูพัฒนาขึ้นมาจากพระราโชบายอันเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ รัชกาลปัจจุบัน
#ลำนำนที วารีสมโภช #กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ #เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ