มีข่าวดีมาบอก! สำหรับคนที่มีไอเดียความคิดสร้างสรรค์และมีใจรักในการพัฒนาสินค้าชุมชน นี่คือโอกาสที่คุณจะได้ฉายแสง ในงานประกวด “Spark the Local 2024 by PTT ปั้นให้ปัง จุดพลังให้สินค้าชุมชน” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 3 แสนบาท
เป็นอีกหนึ่งเวทีที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับการประกวด “Spark the Local 2024 by PTT ปั้นให้ปัง จุดพลังให้สินค้าชุมชน” ที่กำลังจะออกสตาร์ทในวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 นี้เป็นต้นไป ซึ่งแคมเปญนี้เกิดจากความตั้งใจอันดีของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ที่ต้องการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้ศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์/สินค้าชุมชน รวมทั้งขยายโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าและผู้บริโภคกลุ่มใหม่ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผลิตภัณฑ์/สินค้าชุมชน
ว่าแต่ว่า การประกวดครั้งนี้เขามีกติกาหลักเกณฑ์อย่างไร วันนี้เรามาแอบกระซิบให้ทุกคนที่สนใจได้รู้ เพื่อเข้าร่วมสู้ศึกการประกวดพิชิตรางวัลได้อย่างมั่นใจ
อันดับแรกที่ต้องรู้ คืองานนี้เขาให้ส่งประกวดเป็นทีม โดยหนึ่งทีมสามารถส่งได้เพียง 1 ผลงาน แต่ละทีมมีสมาชิกไม่เกิน 5 คน และสมาชิกแต่ละคนต้องมีอายุระหว่าง 18-40 ปี หรือเทียบเท่า (ณ วันที่สมัครเข้าร่วมการประกวด) อีกทั้ง 5 คนนี้ต้องอยู่ในทีมเดียวเท่านั้น หากพบว่าไม่ตรงกับระเบียบจะถูกตัดสิทธิ์ทันที
ทีนี้เมื่อเซตทีมได้ตรงกับระเบียบแล้ว ผู้เข้าแข่งขันจะต้องสร้างแผนพัฒนาสินค้าและการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน ประเภท “อาหารแปรรูป” ภายใต้แนวคิด “ปรับปรุง แปลงโฉม ปั้นแบรนด์” ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. “ปรับและปรุง” ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของไทย ให้ถูกใจ และถูกปากลูกค้าได้มากขึ้น
2. “แปลง” โฉมสินค้า ให้บรรจุภัณฑ์ทันสมัย เพิ่มมูลค่าในราคาเหมาะสม
3. “ปั้น” แบรนด์ให้ปัง เล่าเรื่องราวสะท้อนเอกลักษณ์ชุมชนและความโดดเด่นของสินค้าให้เป็นที่จดจำ
ทั้งนี้ เงื่อนไขสำคัญในการส่งผลงานเข้าประกวด กำหนดให้ใช้ผลิตภัณฑ์/สินค้าชุมชน ประเภทอาหารแปรรูป ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และชุมชนเจ้าของผลิตภัณฑ์/สินค้าชุมชนต้องมีความสนใจในการพัฒนาสินค้าในอนาคต อีกทั้งผู้สมัครส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์/สินค้าชุมชนที่เลือก หรือได้รับการยินยอมให้ใช้ผลิตภัณฑ์/สินค้าชุมชนนั้นในการส่งประกวด นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์/สินค้าชุมชนที่เลือกมาส่งประกวด จะต้องสามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน
ส่วนการส่งผลงาน ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม (Google Form) ให้ครบถ้วน และ Upload ไฟล์นำเสนอผลงานในรูปแบบคลิปสั้น (ถ้ามี) โดยเป็นคลิปที่มีความยาวไม่เกิน 5 นาที และขนาดไฟล์ไม่เกิน 10GB และ/หรือ Upload ไฟล์นำเสนอผลงานในรูปแบบไฟล์ pdf (ถ้ามี) ที่สำคัญที่สุดคือผู้สมัครจะต้องเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานนั้นๆ ด้วยตนเอง ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง เลียนแบบผลงานของบุคคลอื่นๆ หรือนำผลงานของผู้อื่นมาส่งหรือส่งในนามผู้อื่นโดยเด็ดขาด
โดยกำหนดให้เริ่มส่งผลงานได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม-วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2567 (สิ้นสุดเวลา 18.00 น.) ซึ่งหลังจากนั้นจะมีอีกสามด่านสำคัญที่ต้องฝ่าฟันกันไป คือ รอบการคัดเลือก รอบออดิชัน รอบขอคำแนะนำจากที่ปรึกษา (เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์/สินค้าชุมชนตามที่ได้นำเสนอ ให้เกิดเป็นรูปธรรม) จากนั้นจึงจะเข้าสู่รอบไฟนัลซึ่งเป็นรอบตัดสินผู้ชนะ ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567
สำหรับคนที่อยากรู้ว่าต้องสร้างสรรค์ผลงานอย่างไรเพื่อให้โดนใจคณะกรรมการ ขอเล่าให้ฟังโดยคร่าวๆ ว่า คะแนนหลักๆ จะมาจากองค์ประกอบ 4 ด้านด้วยกัน ได้แก่
1. ด้านผลิตภัณฑ์ ที่ดูถึงคุณภาพของสินค้า ทั้งคุณภาพของวัตถุดิบ กระบวนการแปรรูป และมาตรฐานรับรองที่ได้รับ ตลอดจนเอกลักษณ์ ความโดดเด่นและแตกต่างของสินค้า
2. ด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ต้องมีความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ สะดวกในการใช้งาน และมีความเป็นไปได้จริงในด้านการผลิตและด้านต้นทุน
3. ด้านการตลาด จะต้องระบุกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มีเอกลักษณ์ของแบรนด์สวยงามและเป็นที่จดจำ มีเรื่องราวของแบรนด์น่าสนใจ และวางแผนการสื่อสารแบรนด์ได้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในด้านช่องทางการสื่อสารและเนื้อหา และช่องทางการจัดจำหน่าย
4. ด้านความยั่งยืน ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อชุมชน และต้องยั่งยืนด้านเศรษฐกิจคือผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากการพัฒนาสินค้านี้ รวมทั้งยั่งยืนด้านสังคม ซึ่งมีตั้งแต่การทำงานอย่างมีส่วนร่วมกับชุมชน การสะท้อนเอกลักษณ์ อนุรักษ์วัฒนธรรม ฯลฯ
แน่นอนว่า งานนี้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์คงได้ใช้พลังงานกันอย่างเต็มที่เพื่อปล่อยผลงานที่มาจากศักยภาพในตัวเอง ซึ่งก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าความทุ่มเทอย่างแน่นอน เพราะผลตอบแทนนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว
รางวัลชนะเลิศ : เงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 : เงินรางวัล 70,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 : เงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 และ 4 : เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเข้าร่วมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนร่วมกับ ปตท.อีกด้วย
โอกาสดีๆ แบบนี้มีไม่บ่อยนัก หากสนใจและคิดว่าตัวเองพร้อมจะเปล่งแสงความคิดสร้างสรรค์ ก็สมัครเข้าร่วมได้เลย ย้ำอีกครั้ง ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม-วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2567 (สิ้นสุดเวลา 18.00 น.) หรือหากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ >>> E-Mail: communityhappiness@pttplc.com , Facebook : ชุมชนยิ้มได้ โดยกลุ่ม ปตท. https://www.facebook.com/pttcommunityhappiness , Tel : 0-2537-2169 และ 0-2537-1118