สนข. โชว์แอปพลิเคชัน “นำทาง” (NAMTANG) บูรณาการข้อมูลร่วมกับกทม.และ ไทยสมายบัส เชื่อมโยงโครงข่ายข้อมูลการเดินทางรถโดยสารสาธารณะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน กทม.ลุยพัฒนาเทคโนโลยีแจ้งข้อมูลอัจฉริยะป้ายรถเมล์กว่า 7,000 แห่งแบบไร้รอยต่อ
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลการเดินรถสาธารณะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ว่า พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลการเดินรถสาธารณะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่าง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)กรุงเทพมหานคร และบริษัท ไทยสมายบัส จำกัด ในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อบูรณาการข้อมูลการขนส่งและจราจร จากทั้ง 3 หน่วยงาน เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายข้อมูลการเดินทางรถโดยสารสาธารณะ และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดย สนข. จะสนับสนุนข้อมูลเส้นทางการเดินรถ และข้อมูลความหนาแน่นของการจราจร จากแอปพลิเคชัน “นำทาง” (NAMTANG) เพื่อให้ กทม. นำไปประมวลผลร่วมกับพิกัด GPS ของรถโดยสารสาธารณะจากบริษัท ไทยสมายบัส จำกัด และพัฒนาเป็น “ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ” เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลการเดินทางของรถโดยสารสาธารณะ
นายปัญญา กล่าวว่า ปัจจุบัน สนข. มีบริการเผยแพร่ข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน “นำทาง” (NAMTANG) เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนและตัดสินใจ เลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยได้รวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลของระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบก ทางราง และทางน้ำ ซึ่งเป็นการบูรณาการข้อมูลจากภาครัฐและพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ที่มีความครบถ้วน น่าเชื่อถือ และเป็นปัจจุบัน สำหรับเผยแพร่ข้อมูลแก่ประชาชน อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียม และทั่วถึงสำหรับคนทุกคนอย่างแท้จริง ซึ่งแอปพลิเคชัน “นำทาง” (NAMTANG) สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งระบบปฏิบัติการ Windows, IOS และ Androidสำหรับความร่วมมือในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลการเดินรถสาธารณะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่าง 3 หน่วยงาน ที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่จะช่วยขับเคลื่อนงานด้านบริการภาครัฐและเอกชน ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงกันเป็นโครงข่ายที่มีความครบถ้วน และช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการขนส่งและจราจรของประเทศให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม. เป็นผู้รับผิดชอบป้ายรถโดยสารประจำทางประมาณ 5,000 ป้าย และศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางประมาณ 2,098 หลัง ได้นำเทคโนโลยีการแจ้งข้อมูลอัจฉริยะมาติดตั้งบริเวณศาลาที่พักผู้โดยสาร เริ่มแรกจำนวน 350 หลัง ซึ่งได้ผลตอบรับดีมากแต่ยังมีจำนวนน้อย ไม่ครอบคลุม และข้อมูลสายรถเมล์ยังมีข้อจำกัด วันนี้จึงต้องอาศัยความร่วมมือในการพัฒนาเข้าถึงและนำส่งข้อมูลรถโดยสารประจำทางกับ สนข. ที่พัฒนาแอปพลิเคชัน “นำทาง” ซึ่งเป็นของภาครัฐ รวมถึงความร่วมมือกับ ไทย สมายล์ บัส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะ และเจ้าของระบบฐานข้อมูล GPS ในรถโดยสารประจำทาง
นายวิศณุ กล่าวว่า กทม.เชื่อมั่นว่าข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลการเดินรถในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และในอนาคต กทม. มีโครงการติดตั้งป้ายรถโดยสารอัจฉริยะที่มีจอแสดงข้อมูล การเดินทาง-สายรถ-เวลาที่รถจะมาถึง จำนวน 500 จุด รวมถึงจอแสดงข้อมูลบริเวณศาลาที่พักผู้โดยสารอีกกว่า 200 จุด ซึ่งใช้ระบบข้อมูลจากแอปฯ “นำทาง” จึงมั่นใจได้ว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์และความสะดวก เป็นแรงจูงใจในการหันมาเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะกันมากขึ้น เพื่อร่วมกันลดการปล่อยมลพิษ ลดปัญหาจราจรแออัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งมวลชนพลังงานสะอาด เปิดเผยว่า ทางบริษัทยินดีอย่างมากที่จะแชร์ข้อมูล API สายรถทั้งหมด ไปให้กับหน่วยงานของภาครัฐ เพื่อช่วยกันยกระดับบริการขนส่งมวลชนให้เกิดเป็นโครงข่ายที่สมบูรณ์ ไร้รอยต่อ ให้พี่น้องประชาชนทุกคนค้นหาเส้นทางได้สะดวก ง่าย มีทางเลือกที่หลากหลาย ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องไม่นำไปแสวงหาผลประโยชน์เพิ่มเติมหรือเก็บค่าใช้บริการจากประชาชน
ขณะเดียวกัน ไทย สมายล์ บัส อยู่ระหว่างพัฒนาแอปพลิเคชัน TSB Go Plus คู่ขนานไปกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการในการติดตามตำแหน่งรถ เช็กประวัติการเดินทาง รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพิ่มเติม สำหรับผู้ใช้ HOP Card ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นางสาวกุลพรภัสร์ ย้ำว่า ตนเองหวังเป็นอย่างยิ่งกับการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่ช่วยผสานการทำงานของ TSB ร่วมกับภาครัฐ กทม. สนข. กระทรวงคมนาคม ในมุมอื่น ๆ เช่น ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่มีความถูกต้องของข้อมูล ระบบตั๋ว ระบบบัตรโดยสาร เพื่อให้ข้อมูลการเดินรถ สถิติการใช้งานของประชาชนที่บริษัทรวบรวมไว้ ถูกนำไปต่อยอด แก้ไขบริการ พัฒนาข้อบกพร่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามาได้อย่างตรงจุด