“ไทยสมายล์บัส” ศึกษา “ไต้หวันโมเดล” ปรับใช้ HOP Card เชื่อมต่อการเดินทางและขยายระบบการชำระเงิน คุยรายใหญ่ "ไมเนอร์กรุ๊ป" และพันธมิตรร้านค้า ร้านอาหาร ราว 300 รายตามแนววิ่ง 123 เส้นทางเข้าร่วม เพิ่มสิทธิประโยชน์จูงใจผู้โดยสารหันใช้ขนส่งสาธารณะสะดวกและลดค่าครองชีพ
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งพัฒนาและยกระดับการให้บริการขนส่งมวลชนของไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ โดยทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สะอาด ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีหลายประเทศที่มีลักษณะโครงสร้างการคมนาคมขนส่งใกล้เคียงกับไทย ได้แก่ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ซึ่งมีการพัฒนาระบบรวมถึงปรับเปลี่ยนนโยบาย รวมไปถึงกฎระเบียบข้อบังคับ และการสนับสนุนจากทางภาครัฐ และการร่วมมือกันของภาคเอกชน
ทั้งนี้ บริษัทเห็นว่าประเทศไทยสามารถนำโมเดลระบบขนส่งสาธารณะของไต้หวันมาพัฒนาต่อยอด เช่นเรื่องการเชื่อมต่อโครงข่าย Single Network เหมือนกับระบบบัตรโดยสาร Easy Card, บัตร i-Pass ที่สามารถเชื่อมโยงระบบการใช้บริการได้ครบถ้วน รถ-เรือ-ราง ซึ่งไต้หวัน มีรถไฟฟ้า Metro Taipei, Kaohsiung Metro & LRT, Metro Taiyuan, Metro Taichung, New Taipei Metro, รถไฟ Taiwan Railway,รถไฟความเร็วสูง, รถเมล์ EV Bus, รถรับส่ง Shuttle Bus, เรือเฟอร์รี่, รถแท็กซี่ ไปจนถึงบริการเช่าจักรยาน T-Bike และ You Bike ที่เชื่อมโยงระบบกันได้หมด
“ประเทศไทยยังติดปัญหาไม่สามารถเชื่อมโยงกันเป็นโครงข่ายได้อย่างแท้จริง แม้ปัจจุบัน TSB มีการนำร่องเชื่อมต่อรถเมล์ไฟฟ้า กับเรือโดยสารไฟฟ้าในเครือเรียบร้อยแล้ว และพร้อมเปิดโต๊ะรับการพูดคุยกับผู้ประกอบการขนส่งทุกราย แต่ในความเป็นจริงก็ยังมีข้อจำกัดอีกมาก ซึ่งต้องอาศัยอำนาจของภาครัฐเข้ามาเป็นคนกลางในการดำเนินการประสานความร่วมมือกันทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายต่อประชาชนมากที่สุด”
นางสาวกุลพรภัสร์กล่าวอีกว่า บริษัทจะมีการต่อยอดบัตรโดยสาร HOP Card ให้สามารถใช้ชำระค่าสินค้า-บริการ ให้ได้เหมือนกับ Easy Card ของไต้หวัน ที่ใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ใช้จ่ายค่าบริการร้านอาหาร สวนสนุก โรงแรม ขึ้นกระเช้าท่องเที่ยว พร้อมทั้งยังมีสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้บริการ
สำหรับสิทธิประโยชน์ในปัจจุบัน TSB มีสิทธิประโยชน์ เดลิ แมกซ์ แฟร์ (Daily Max Fare) แก่ผู้โดยสาร ไทย สมายล์ กรุ๊ป ที่ถือ HOP Card จ่ายค่าโดยสารสูงสุดเพียง 40 บาทต่อวัน เมื่อโดยสารรถหรือเรือ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะนั่งรถต่อเรือ เรือต่อรถ ชำระค่าโดยสารสูงสุดเพียง 50 บาทต่อวัน อย่างไรก็ตามหากภาครัฐและเอกชน สามารถเชื่อมโยงการเดินทางทั้งระบบ เชื่อว่าจะทำให้มีประชาชนใช้รถสาธารณะเดินทางมากขึ้น เนื่องจากจะมีทั้งสิทธิประโยชน์ในบัตร มีส่วนลดร้านค้า มีส่วนลดค่าเดินทาง หรือลดค่าแรกเข้า ช่วยลดค่าครองชีพได้
ล่าสุดบริษัทได้พัฒนาแอปพลิเคชัน TSB Go Plus เพิ่มฟังก์ชันให้หลากหลาย เช่น ตรวจสอบเวลาเดินรถ เมื่อกำลังเข้าป้าย คำนวณระยะเวลาเดินทาง มากกว่านั้น ยังมีระบบสำหรับผู้ลงทะเบียนบัตร HOP Card โดยเฉพาะ ให้สามารถเช็กประวัติการเดินทางย้อนหลัง ขึ้น-ลงที่ป้ายใด เวลากี่โมง พร้อมประเมินความพึงพอใจหรือร้องเรียนติชมพนักงานผู้ให้บริการ แล้วส่งข้อมูลตรงถึงฝ่ายปฏิบัติการได้ทันที ทำให้ปัญหาของผู้โดยสารจะได้รับการตรวจสอบ แก้ไขได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้นและมีแผนการพัฒนาแอปพลิเคชันในระยะต่อไปจะมีฟังก์ชันใหม่ๆ ต่อเนื่อง เช่น Personal AVM การแตะอัปเดตบัตรโดยสารด้วยเทคโนโลยี NFC จากสมาร์ทโฟน เป็นต้น
@เจรจาพันธมิตร 300 ร้านค้าเพิ่มสิทธิประโยชน์บัตร Hop Card
นายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ บริษัท ไทย สมายล์ บัส กล่าวว่า บริษัทจะรุกทำการตลาดมากขึ้น โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มผู้ถือบัตร Hop Card เป็นจากปัจจุบัน 1.4 แสนใบ (ลงทะเบียนใช้งาน ราว 5 หมื่นใบ) เป็น 3-4 แสนใบ และเพิ่มสัดส่วนการลงทะเบียนใช้บัตร โดยมีแผนเพิ่มสิทธิประโชน์บัตร Hop Card ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรหลายรายที่เจรจาแล้ว คือ กลุ่มไมเนอร์กรุ๊ป ที่ให้ส่วนลดอาหารในกลุ่ม และพันธมิตร โดย 1 เส้นทางจะมีพาร์ทเนอร์ 1-2 รายต่อเส้นทาง บริษัทมี 123 เส้นทาง ก็จะดึงพันธมิตรราว 300 ราย ที่จะดึงร้านค้าเข้าร่วม นอกจากนี้ยังขยายพันธมิตรรูปแบบ B2B ในกลุ่มโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า
ทั้งนี้ คาดการณ์รายได้ช่วงครึ่งหลังปี 67 ในการเดินรถ จำนวน 123 เส้นทาง จากปัจจุบัน 150 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 260 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นผลมาจากแผนเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร จากการวิ่ง 14 เส้นทางที่ ขสมก.ถอนรถยกเลิกการวิ่งทับซ้อน ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ตามแผนปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ คาดเพิ่มรายได้อีก 30 ล้านบาท/เดือน 2. จากการปรับปรุง 116 เส้นทาง ซึ่งเสนอกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แล้ว เพื่อรองรับพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่นคาดเพิ่มรายได้อีก 80 ล้านบาท/เดือน