xs
xsm
sm
md
lg

รฟท.จับมือ ททท. จัดกิจกรรม “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” เป้าเพิ่มรถไฟท่องเที่ยว 800 เที่ยวต่อปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"คมนาคม-ททท."จัดกิจกรรม “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” ประเดิม 6 เส้นทาง เผยขบวนรถไฟท่องเที่ยวเพิ่มจาก 50 เที่ยวเป็น 800 เที่ยวต่อปี ด้านททท.ตั้งเป้า ปี 67 สร้างรายได้ท่องเที่ยวรวม 3.5 ล้านล้านบาท

วันที่ 28 มิถุนายน 2567 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าว ร่วมกับ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดตัวกิจกรรม “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” โดยมี นางสาวณภัทรา กมลรักษา เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วม ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าวว่า กิจกรรม “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” เป็นการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย IGNITE Tourism Thailand เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว เชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียง โดยใช้ศักยภาพด้านการขนส่งสาธารณะของประเทศ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี


ซึ่งสอดรับกับนโยบายที่ได้มอบหมายให้ รฟท. เพิ่มประสิทธิภาพขบวนรถท่องเที่ยว ซึ่งจากเดิม รฟท. มีแผนการเดินขบวนรถท่องเที่ยวประมาณ 50 เที่ยวต่อปี จากนี้ไป รฟท. จะมีขบวนรถท่องเที่ยว 800 เที่ยวต่อปี เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล โดยการร่วมมือกับ ททท. ทุก ๆ อีกเวนต์ของการท่องเที่ยวจะมีรถไฟ รถ บขส. และเครื่องบิน เข้ามาช่วยสนับสนุนให้อีเวนต์นั้น ๆ ประสบความสำเร็จ

ความร่วมมือของกระทรวงคมนาคม โดย รฟท. และ ททท. ในครั้งนี้ จะเป็นแบบอย่างในการผลักดันเรือธงเศรษฐกิจของประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความพร้อมที่จะเป็นเครื่องมือให้รัฐบาล ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการขับเคลื่อนขนส่งผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว กระจายไปทั่วประเทศและกระจายไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง


ด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ททท. ได้ร่วมกับ รฟท. และบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟ “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” นำร่องกิจกรรมในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 ด้วยการเดินทางเชื่อมโยงกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออก โดยขบวนรถไฟ KIHA 183 ทุกสัปดาห์ จำนวน 4 เส้นทาง พร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 3,999 บาทต่อคน ได้แก่

เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ - ราชบุรี วันที่ 6 - 7กรกฎาคม 2567
เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ - ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 13 – 14กรกฎาคม 2567
เส้นทางที่ 3 กรุงเทพฯ - สุพรรณบุรี วันที่ 20 – 21 กรกฎาคม 2567
เส้นทางที่ 4 กรุงเทพฯ - จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 27 - 28กรกฎาคม 2567


นอกจากนี้ ททท. ยังได้เพิ่มแรงส่งอย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม กับกิจกรรม “สิงหาแม่พาเที่ยว” นำเสนอ 2 เส้นทางท่องเที่ยว รูปแบบท่องเที่ยว One Day Trip ได้แก่ เส้นทางที่ 1 แม่พาลูกเที่ยว ชวนนั่งรถจักร์ไอน้ำประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา วันที่ 12 สิงหาคม 2567 และเส้นทางที่ 2 แม่ชวนลูกเที่ยว Royal Blossom รถไฟสายแห่งความสุข กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี (ภาคกลาง) วันที่ 17 สิงหาคม 2567


ทั้งนี้ ททท. มั่นใจว่าการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟดังกล่าว จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตั้งแต่ช่วง Green Season ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศอย่างทั่วถึง ช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมาย ปี 2567 สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งในเดือนมกราคม - เมษายน 2567 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในประเทศไทยแล้วกว่า 120 ล้านคน-ครั้ง เกิดเป็นรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวประมาณ 880,346 ล้านบาท ตลอดจนกิจกรรมนี้จะนำไปสู่การออกแบบสร้างสรรค์และนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟในภูมิภาคอื่น ๆ อีกด้วย


สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถจองแพ็กเกจท่องเที่ยวเส้นทางโดยสารรถไฟ ทั้ง 6 เส้นทาง ได้ที่ สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือระบบ D-ticket ของ รฟท. หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ รฟท. โทรศัพท์สายด่วน 1690
กำลังโหลดความคิดเห็น