xs
xsm
sm
md
lg

EGCO ลั่นปีนี้รายได้โตกว่า 10% เร่งปิดดีลการ M&A ดันกำลังผลิตไฟเพิ่ม1,000MW

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



EGCO วางเป้ารายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 10% จากกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่ม 1,000 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าปิดดีล M&A อีก 2-3 โครงการทั้งในไทยและสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ เดินหน้าผุดนิคมอุตสาหกรรม ERIE จ่อเปิดขายเฟสแรกไตรมาส 3/68

นางสาวจิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10% เนื่องจากปีนี้รับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการที่เข้าลงทุนในปี 2566 ได้แก่ โรงไฟฟ้า RISEC, กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass, การลงทุนใน CDI ประเทศอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าเอ็กโก โคเจนเนอเรชั่นส่วนขยาย รวมทั้งกำลังการผลิตใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มเติม

ในปี 2567 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 30,000 ล้านบาทเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 1,000 เมกะวัตต์จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 7,003 เมกะวัตต์ โดยบริษัทมีกำลังการผลิตใหม่ที่จะจ่ายไฟเข้าระบบในปีนี้ 370 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม Yunlin ที่ไต้หวัน 100 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของ APEX ที่สหรัฐฯ 211 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าเอ็กโก โคเจนฯ ส่วนขยาย 59 เมกะวัตต์

ส่วนที่เหลืออีก 630 เมกะวัตต์นั้นบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ 2-3 โครงการ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน คาดว่าจะทยอยปิดดีลได้ภายในปลายปี 2567

“ในปีนี้บริษัทมั่นใจผลประกอบการพลิกมีกำไร หลังจากไม่มีรายการพิเศษ บันทึกด้อยค่าทางบัญชีโครงการพลังงานลม Yunlin แล้ว และมีกำลังการผลิตไฟก็เพิ่มขึ้นด้วย”


ทั้งนี้ ในปี 2567 ถึงปัจจุบันบริษัทได้ใช้งบลงทุนไปแล้ว 15,000-16,000 ล้านบาท คงเหลืออีก 15,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการทำ M&A ซึ่งหากไม่เพียงพอบริษัทก็จะดำเนินการกู้ยืมจากสถาบันการเงินและออกหุ้นกู้ได้ โดยบริษัทได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทในการออกหุ้นกู้จำนวน 30,000 ล้านบาท ซึ่งได้ออกหุ้นกู้ไปแล้ว 7,000 ล้านบาท และบริษัทยังมีศักยภาพในการกู้ยืมอีกมาก เนื่องจากมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ในระดับที่ต่ำประมาณ 1.4 เท่า

นางสาวจิราพรกล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม Yunlin จะดำเนินการติดตั้งเสากังหันครบ 80 ต้น กำลังผลิต 640 เมกะวัตต์ และจ่ายไฟเข้าระบบแล้วเสร็จทันกำหนดในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากล่าช้ามานาน

ส่วนความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง (ERIE) ซึ่งต้องการทำให้เป็นนิคมฯ พรีเมียม มีพื้นที่ทั้งหมด 609 ไร่ และมีพื้นที่สำหรับขายและให้เช่า 421 ไร่ มีกำหนดเปิดให้จองและเปิดดำเนินการเฟส 1 ไตรมาส 3/2568 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าเข้ามาเช่าใช้พื้นที่ในนิคมฯ เบื้องต้นเป็นกลุ่มลูกค้าจากจีน ที่สนใจขยายฐานการผลิตและประกอบกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึง Data center เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทมีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในเฟส 2 กำลังผลิต 3,688.5 เมกะวัตต์ รวมถึงการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ภายใต้ร่างแผน PDP 2024 รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมสำหรับการขายไฟฟ้าสะอาดให้ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง (Direct PPA) หลังภาครัฐออกกฎเกณฑ์ออกมา

“สำหรับการดำเนินงาน 6 เดือนหลังมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของ EGCO โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังผลิตใหม่และการสร้างรายได้และกำไร ได้แก่ การรับรู้รายได้จากการทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของโครงการ Yunlin การรับรู้รายได้ของ APEX ในสหรัฐอเมริกา จากการขายโครงการและจาก 7 โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งมีแผนจะก่อสร้างเสร็จภายในปี 2567 การรับรู้รายได้จากการลงทุนใน CDI ในอินโดนีเซีย และกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass ในสหรัฐอเมริกา ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Paju ES ในเกาหลีใต้ ซึ่งสามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่นต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสปิดดีลโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในรูปแบบ M&A ทำให้สามารถรับรู้รายได้ทันที รวมทั้งโอกาสในการเจรจาสัญญาใหม่ของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ โดยอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดสัญญา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2567”


กำลังโหลดความคิดเห็น