WHAUP เร่งปิดดีล M&A โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในต่างประเทศอย่างน้อย 1 โครงการภายในปีนี้ ขนาดกำลังผลิตกว่า 100 เมกะวัตต์ พร้อมรุกธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารองรับ Green Logistics แบบครบวงจรของ WHA Group
นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาดีลเข้าซื้อกิจการ (M&A) โครงการพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ จำนวน 2-3 ราย ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้อย่างน้อย 1 โครงการภายในปีนี้ เบื้องต้นจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิตรวมมากกว่า 100 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยบริษัทเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรในการลงทุนโครงการต่างประเทศ เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 20-30% ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทำให้ไม่สามารถรับรู้รายได้ทันที
สำหรับแผนการเติบโตของ WHAUP ยังคงมาจากธุรกิจหลัก ทั้งธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) และธุรกิจไฟฟ้า โดยธุรกิจไฟฟ้ายังคงเน้นการเติบโตของโครงการโซลาร์รูฟท็อป ทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม ตั้งเป้าครบ 300 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 200 เมกะวัตต์
ขณะที่ในด้านธุรกิจน้ำ บริษัทยังมีแผนขยายการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA และนอกกลุ่มที่ร่วมกับทางพันธมิตร ที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกับบริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด ซึ่งไม่ใช่กลุ่ม WHA รวมทั้งตั้งเป้าขยายไปยังนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
บริษัทได้ลงนามในสัญญาการให้บริการน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ปริมาณการผลิต 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) คาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/2567
สำหรับน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) เป็นการบำบัดน้ำเสียจนเป็นน้ำอุตสาหรรมที่มีคุณภาพ โดยปีที่แล้วมียอดขายอยู่ที่ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 50% ของกำลังการผลิต คาดว่าปีนี้จะขายได้กว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากลูกค้ามีความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้น
รวมทั้งบริษัทได้มุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านพลังงานใหม่ๆ เช่น การเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สอดรับกับแผนการลงทุนใน Green Logistics แบบครบวงจรของ WHA Group ขณะนี้บริษัทมีลูกค้าบริษัทขนส่ง 2 รายแล้ว คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 4/67 โดยได้ตั้งเป้าขยายการให้บริการครบ 120 ตู้ชาร์จภายในปี 2567 ใช้ลงทุนไว้ประมาณ 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนในส่วนอีวีชาร์จทั้ง 120 แห่ง ประมาณ 300 ล้านบาทจากงบลงทุนในปีนี้ที่วางไว้ 4 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าราว 70% ที่เหลือลงทุนธุรกิจน้ำในเวียดนาม
สำหรับแผน PDP2024 ของประเทศไทย ภาครัฐมีการส่งเสริมไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นถึง 51% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ บริษัทมองโอกาสเติบโต ทั้งโซลาร์ ลม และขยะ รวมทั้งยังรอความชัดเจนในเรื่องการออกมาตรการ Direct PPA ที่ภาครัฐต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกำหนดพื้นที่โครงการผลิตไฟฟ้าสีเขียว, อัตราค่าบริการสายส่งไฟฟ้า (Wheeling Charge) รวมถึงแผนพัฒนาสายส่ง เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังรอแผน PDP8 ของเวียดนามที่จะประกาศออกมา คาดว่าจะมีโอกาสเติบโตสูง
ขณะเดียวกัน โครงการพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 จำนวน 3,668.5 เมกะวัตต์ ที่คาดว่าจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าภายในปีนี้ หลังจากโครงการพลังงานหมุนเวียนเฟสแรกมีโครงการโซลาร์ฟาร์มของบริษัทได้รับการคัดเลือกจำนวน 5 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 125.4 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ กฟผ.และ กฟภ.เสร็จสิ้นแล้ว 4 โครงการ รวม 85 เมกะวัตต์ ยังคงเหลืออีก 1 โครงการ กำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์ คาดว่าจะลงนาม PPA ได้ภายในเดือน มิ.ย. 2567