xs
xsm
sm
md
lg

WHAUP พร้อมชิงเค้กโครงการพลังงานหมุนเวียนเฟส 2-PDP 2024

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



WHAUP พร้อมชิงเค้กพลังงานหมุนเวียนตามแผน PDP 2024 และโครงการพลังงานหมุนเวียน เฟสสอง ที่จะเปิดรับซื้อไฟฟ้าอีก 3,668.5 เมกะวัตต์ ลั่นปีนี้รายได้โต 2 หลักจากปีก่อนมีรายได้รวม 2,801 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,631 ล้านบาทมาจากธุรกิจไฟฟ้า และน้ำ

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพลังงานได้เปิดรับฟังความคิดเห็น “ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) พบว่า แผน PDP ฉบับใหม่ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นถึง 51% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศอยู่ที่ 34,851 เมกะวัตต์ ตอบโจทย์เทรนด์โลกที่มุ่งเรื่องการใช้พลังงานสะอาด และสอดคล้องกับความต้องการใช้พลังงานสะอาดของนักลงทุนข้ามชาติที่ต้องการย้ายฐานการผลิตมาไทย ซึ่งยังรอความชัดเจนในเรื่องการออกมาตรการส่งเสริมให้บริษัทเอกชนซื้อขายไฟฟ้าพลังงานสะอาด และพลังงานทดแทนได้โดยตรงจากผู้ผลิตไฟฟ้า หรือ Direct PPA (Purchase Power Agreement) ที่ภาครัฐต้องมีความชัดเจนรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกำหนดพื้นที่โครงการผลิตไฟฟ้าสีเขียว, อัตราค่าบริการสายส่งไฟฟ้า (Wheeling Charge) รวมถึงแผนพัฒนาสายส่ง เป็นต้น รวมทั้ง กกพ.เตรียมเปิดรับซื้อไฟฟ้าโครงการพลังงานหมุนเวียน เฟส 2 อีก 3,668.5 เมกะวัตต์

จึงเป็นโอกาสของบริษัทในการยื่นประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียน เฟสสอง ที่จะเปิดรับซื้อไฟฟ้าอีก 3,668.5 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ รวมทั้งตามแผน PDP 2024 โดยบริษัทสนใจประมูลทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และขยะ หลังจากที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) เฟส 1 ที่บริษัทได้รับการคัดเลือกจำนวน 5 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 125.4 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ กฟผ.และ กฟภ.เสร็จสิ้นแล้ว 4 โครงการ จำนวนรวม 85 เมกะวัตต์ ยังคงเหลืออีก 1 โครงการ กำลังการผลิตราว 40 เมกะวัตต์ คาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้


นายสมเกียรติกล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโต 2 หลักตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,801 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,631 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนมาจากทิศทางกลุ่มธุรกิจทั้งธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) และธุรกิจไฟฟ้าที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น

สำหรับธุรกิจน้ำ บริษัทตั้งเป้ามีปริมาณยอดจำหน่าย และบริหารน้ำทั้งในและต่างประเทศรวมกันเท่ากับ 178 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโตประมาณ 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 155 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ไตรมาส 1/2567 ทำได้ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเติบโตขึ้นทุกผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำดิบ (Raw Water) จากปริมาณความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้ากลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรเคมี และผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่มจากปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายใหม่


ส่วนธุรกิจไฟฟ้า คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 858 เมกะวัตต์ มาอยู่ที่ 1,000 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ โดยในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในไตรมาส 1/2567 บริษัทได้ลงนามในสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ประเภท Private PPA เพิ่มจำนวน 15 สัญญา กำลังการผลิตรวม 59 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทมีการลงนามในสัญญาโครงการ Private PPA สะสมทั้งสิ้น 242 เมกะวัตต์ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 125 เมกะวัตต์


กำลังโหลดความคิดเห็น