“มนพร” สั่งเจ้าท่าฯ เร่งสอบเหตุเรือนักท่องเที่ยวจีนชนกับเรือโดยสารข้ามฟากทหารเรือ บริเวณท่าเตียน นักท่องเที่ยว 4 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จ่อพักใช้ใบอนุญาตนายท้ายเรือ กำชับเข้มงวดด้านความปลอดภัยสูงสุด ย้ำห้ามเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกรมเจ้าท่า (จท.) ว่า วันนี้ (6 มิถุนายน) เวลา 16.02 น.ได้เกิดเหตุเรือเพลาใบจักรยาว (รับนักท่องเที่ยว) ชนกับเรือโดยสารข้ามฟากของทหารเรือ (ทร.) ในแม่เจ้าพระยา บริเวณท่าเรือท่าเตียน หรือบริเวณหน้าวัดอรุณฯ เป็นเหตุให้ผู้โดยสารสัญชาติจีน จำนวน 4 คน (ชาย 1 คน และหญิง 3 คน) ที่โดยสารมากับเรือท่องเที่ยวตกลงแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนักท่องเที่ยวทั้งหมดสวมใส่เสื้อชูชีพ และได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่ง เบื้องต้นมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย และได้นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ จท.ประสานไปยังเจ้าของเรือเพื่อให้ความช่วยเหลือ และดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหากพบว่ามีการกระทำความผิด หรือมีความประมาทในการให้บริการนั้นจะพิจารณาถึงการพักใช้ใบอนุญาตต่อไป นอกจากนี้ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดด้านความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยต่อผู้ที่มาใช้บริการเรือโดยสาร และทุกท่าเรือ
ขณะเดียวกัน ยังได้มอบหมายให้เตรียมมาตรการต่างๆ ด้านการโดยสารทางน้ำในทุกมิติ เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยของเรือ ท่าเรือ และอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อป้องกันเหตุอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย
โดยกรมเจ้าท่าได้นำเรือตรวจการณ์ "เจ้าท่า 141" เข้าตรวจสอบเหตุเรือชนกันกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดอรุณฯ เบื้องต้นพบว่าเรือโดยสารเพลาใบจักรยาว (เรือหางยาว) ชื่อ "ร จิตนาการ 8" หมายเลขทะเบียน 1711-01155 สิ้นอายุในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 มีนายเตชสิท จักรินสุขเจริญ ประกาศนียบัตรนายท้ายเรือกลลำน้ำ ชั้น 2 สิ้นอายุวันที่ 19 มีนาคม 2571
ส่วนเรือข้ามฟากของกองทัพเรือ ชื่อ "ขส.ทร.1101" ประเภทเรือข้ามฟาก เส้นทางกองทัพเรือ (วังเดิม)-ราชนาวีสโมสร มีนายทหารโดยสารมา จำนวน 2 นาย ได้รับความเสียหาย โดยเรือหางยาวพุ่งเสยขึ้นไปบนตัวเรือข้ามฟากของกองทัพเรือ ซึ่งผู้โดยสารทุกคนสวมใส่เสื้อชูชีพ และได้รับการช่วยเหลือ และได้ประสานกู้ชีพปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บฟกซ้ำ และแผลถลอก ไม่มีบาดเจ็บรุนแรง