xs
xsm
sm
md
lg

รถนักเรียนต้องปลอดภัย!ขบ.สั่งการ ขนส่งทั่วประเทศ ตรวจสอบคุมเข้มมาตรฐานปลอดภัยทุกคัน คนขับมีใบขับขี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการขนส่งทางบก กำชับ!!! รถรับจ้างรับส่งนักเรียนทุกคันต้องได้รับอนุญาตและผ่านการรับรองจากโรงเรียน เตือน ผู้ขับรถรับส่งต้องได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย และต้องมีผู้ควบคุมดูแลนักเรียนให้ถูกต้อง หากฝ่าฝืนลงโทษหนัก

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า จากที่มีประเด็น ข่าวปรากฏบนโลกโซเชียลบ่อยครั้งเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุของรถโรงเรียน ประกอบกับช่วงโรงเรียนเปิดเทอม กรมการขนส่งทางบก จึงกำชับและสั่งการให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศไทย ตรวจสอบความปลอดภัยและการให้บริการของรถโรงเรียนและรถที่รับจ้างรับส่งนักเรียนในพื้นที่รับผิดชอบทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัยของตัวรถ และพนักงานขับรถต้องนึกถึงความปลอดภัยของเด็กๆนักเรียนทุกคนที่โดยสารมากับรถ และตัวรถที่ใช้รับส่งนักเรียนต้องมีสภาพที่แข็งแรงต้องชำระภาษีรถประจำปีอย่างถูกต้อง พร้อมที่จะให้บริการรับส่งนักเรียนได้อย่างปลอดภัย

สำหรับการนำรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งในลักษณะรถสองแถวและรถตู้มาใช้รับส่งนักเรียน กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ต้องผ่านการรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา และต้องขออนุญาตใช้รถให้ถูกต้อง นำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ทางราชการกำหนดซึ่งจะได้รับอนุญาตครั้งละ 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น (ไม่เกินวัน ปิดเทอมของแต่ละภาคการศึกษา)

ภายในรถต้องมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับช่วยเหลือนักเรียนเมื่อมีอุบัติเหตุ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ที่นั่งผู้โดยสารต้องยึดแน่นมั่นคงแข็งแรง กรณีเป็นรถสองแถวหากมีทางขึ้นลงอยู่ ด้านท้ายต้องปรับปรุงตัวรถให้มีประตูและที่กั้นป้องกันนักเรียนตกหล่นจากรถ ส่วนรถตู้ต้องจัดวางที่นั่งเป็นแถวตอนตามความกว้างของตัวรถเท่านั้น ห้ามดัดแปลงสภาพรถ ห้ามเพิ่มเบาะที่นั่งหรือการต่อเติมกระบะท้ายเพื่อให้รับนักเรียนได้มากเกินจำนวนบรรทุกที่ปลอดภัย ต้องมีป้าย สีส้มสะท้อนแสง มีข้อความ “รถโรงเรียน” ให้เห็นชัดเจน พร้อมติดไฟสัญญาณสีเหลืองไว้ที่ด้านหน้า และด้านท้ายของตัวรถ หากพบการฝ่าฝืนจะพิจารณาสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ใช้รถทันที และไม่สามารถขออนุญาตได้อีกจนกว่าจะพ้น 1 ปีไปแล้ว

ในส่วนผู้ขับรถต้องได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีหรือได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วย การขนส่งทางบก ซึ่งต้องไม่เคยมีประวัติเสียหายอันเกิดจากการขับรถมาก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น