xs
xsm
sm
md
lg

“ฉายแสงฯ” เปิดยูนิตใหม่ “เมะ” ลุยแอนิเมชันนำ 5 เรื่องชิงตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน360 - ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ ผู้วางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ ขยายพอร์ตโฟลิโอด้วยการเปิดยูนิตใหม่ “เมะ” (ME’) ชิงเค้กตลาดแอนิเมชัน 30% ด้วยกลยุทธ์และจำนวนคอนเทนต์ที่มากขึ้น ด้วยการจับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลก คัดสรรแอนิเมชันเรื่องดัง พร้อมจ่อคิวคัดสรรแอนิเมชันเรื่องดัง เข้าโรงฉายตลอดทั้งปี หวังขยายฐานคนดูให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งเป้าบริษัทฯ เติบโตขึ้น 2 เท่าจากปีก่อนหน้า


นายชัยวัฒน์ มิ่งไม้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ เป็นบริษัทที่ทำการตลาดและจัดจำหน่ายให้กับภาพยนตร์ไทยจากค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์มเป็นหลัก โดยในปี 2566 มีภาพยนตร์ 4Kings 2 ที่ติดอันดับที่ 3 ด้วยรายได้ 240 ล้านบาท ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์นำภาพยนตร์ที่เป็นกระแสเข้ามาฉายในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ Night Edge Pictures นำ TALK TO ME จับ มือ ผี ภาพยนตร์สยองขวัญอินดี้ จาก A24 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จมาก การร่วมกับ ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) ใน Guy Ritchie's The Covenant , Silent Night ยิงแมร่งให้เหี้ยน และล่าสุดการร่วมมือกับค่าย โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (ประเทศไทย) ด้วยภาพยนตร์เรื่อง EXHUMA ขุดมันขึ้นมาจากหลุม ที่กวาดรายได้ไปถึง 52 ล้านบาท (เฉพาะกรุงเทพฯ และเชียงใหม่)


“จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา เรานำเสนอภาพยนตร์ที่มีความหลากหลายให้คนไทยได้ดูเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังมีภาพยนตร์ในกลุ่มแอนิเมชันที่เราเริ่มให้ความสนใจ มีการคุยกับพารท์เนอร์ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ พบว่า ตลาดแอนิเมชันมีความคึกคักมากและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี”

จากการสำรวจตลาด 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2020-2023) พบว่าภาพยนตร์แอนิเมชันที่เข้าโรงฉายในประเทศไทยมีตลาดรวมมากกว่า 150 ล้านบาท เราจึงมองเห็นโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมแอนิเมชัน บวกกับประสบการณ์การทำตลาดหนังแอนิเมชันมาก่อน จึงเป็นโอกาสดีในการขยายพอร์ตให้กับบริษัท โดยการเปิดยูนิตใหม่ “เมะ” (ME’) เพื่อจัดจำหน่ายและทำการตลาดให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันโดยเฉพาะ ด้วย strategy และจำนวนคอนเทนต์ที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง Medialink Entertainment Limited รวมถึงการจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพ มี license ของแอนิเมชันเรื่องนั้นๆ อีกด้วย โดยปีนี้วางแผนนำเข้าแอนิเมชันทั้งหมด 5 เรื่อง ภายใต้งบประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 74,000,000 ล้านบาท”


สำหรับไลน์อัพภาพยนตร์ที่เตรียมเข้าฉายในปีนี้ ได้แก่
1. Haikyu!! The Dumpster Battle ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน ตอน: ศึกที่กองขยะ ผลงานมังงะแนวกีฬาวอลเลย์บอลของอาจารย์ Furudate Haruichi ที่มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร Shonen Jump ตั้งแต่ปี 2012 มีแฟนคลับติดตามมากมาย จนนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน เป็นภาพยนตร์ที่ได้ร่วมกับ Medialink Entertainment Limited ถือเป็นพาร์ทเนอร์ใหญ่ในเอเชีย เข้าฉาย 30 พฤษภาคม นี้


2. Ya Boy Kongming! ร่วมกับ DMM.com LLC อีกหนึ่งมังงะแนวคอเมดี้ไอดอลยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ น่าจะเป็นแอนิเมชันที่ไทยมีเกือบทุกแพลตฟอร์ม ทั้งหนังสือ ซีรีส์ สำหรับเวอร์ชันภาพยนตร์น่าจะตอบโจทย์กับแฟนคลับได้ เข้าฉาย 6 มิถุนายน


3.Given: Hiiragi Mix ร่วมกับ Neofilms เรื่องราวความสัมพันธ์ ความรัก ความโรแมนติก ความเศร้า ของ 4 หนุ่ม กับวงดนตรีนาม GIVEN ที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แนว BL และได้รับความนิยมอย่างมาก เข้าฉาย 1 สิงหาคม


4. Totto-Chan: The Little Girl at the Window ภาพยนตร์ที่ได้ร่วมมือกับ TOHO นวนิยายที่ถูกตีพิมพ์มากสุดในประเทศญี่ปุ่น และยังถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมายทั่วโลก ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ที่จะสร้างความประทับใจและเรียกน้ำตา รับชมได้ทุกเพศ ทุกวัย เข้าฉาย 29 สิงหาคม


5. Ghost Cat Anzu ภาพยนตร์ที่ได้ร่วมมือกับ Shin-ei Animation และบริษัทฝรั่งเศส CHARADES เป็นแอนิเมชันที่เพิ่งเข้าสายประกวด Directors Fortnight ที่เทศกาล Cannes Film Festival ครั้งที่ 77 ประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ ทำกำไรได้เกือบ 20 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 2 เท่า ด้วยจำนวนคอนเทนต์ที่มีในมือ ทั้งภาพยนตร์แอนิเมชัน ที่ทาง “เมะ” (ME’) จะทำการคัดสรรแอนิเมชันคุณภาพเข้ามา รวมไปถึงภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์ต่างประเทศ รวมทั้งภาพยนตร์ไทยจากพาร์ทเนอร์ ที่ปีนี้จะเคลื่อนทัพด้วยจำนวนคอนเทนต์ที่มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว และจำนวนพาร์ทเนอร์ทั้งในและนอกประเทศ เพื่อให้แฟนชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ภาพยนตร์ที่สนุกๆ มากขึ้น รวมถึงร่วมมือกันจัดอีเวนต์สำคัญกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศ สร้างความตื่นเต้นให้กับ Genre อนิเมะ และแฟนที่ชอบ Entertainment lifestyle อื่นๆ เพื่อพัฒนา สร้างความแตกต่างและสร้างความหลากหลายใน Entertainment Content เพื่อให้วงการภาพยนตร์เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายชัยวัฒน์ กล่าว












กำลังโหลดความคิดเห็น