บีซีพีจี แจงกำไรสุทธิไตรมาส1/67 อยู่ที่ 440.51ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 13.9% แต่โตขึ้นเมื่อเทีนบกับไตรมาส4/66ที่ขาดทุนสุทธิ 173.7ล้านบาท
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)หรือ BCPG เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส1/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 440.51 ล้านบาท ลดลง13.9%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 511.84 ล้านบาท แต่ดีขึ้น253.6%เมื่อเทียบกับไตรมาส4/2566ที่ขาดทุนสุทธิ 173.7 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,194.1 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 12.9%จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง19.4%เมื่อเทียบจากไตรมาส4/66 ที่มีรายได้จากการขายและบริการ 1,317.9ล้านบาท
ในไตรมาสที่ 1/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 343.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114.7 %จากไตรมาสที่ 1/2566 และโตขึ้น 786.3 %เมื่อเปรียบเทียบไตรมาสที่ 4/2566
"กำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานปกติในไตรมาส 1ปี 2567เติบโตกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลมาจากการกลับมาเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาวและเริ่มขายไฟฟ้าไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตั้งแต่ไตรมาสที่ 3ของปีที่แล้วประกอบกับการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมารวมถึงการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากโครงการหลักทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์เนื่องจากกำลังลมที่พัดผ่านโครงการเพิ่มขึ้นและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาที่มีปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและมีการบริหารจัดการส่วนต่างของราคาขายไฟฟ้าและต้นทุนค่าเชื้อเพลิงได้ดี
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 30เมษายน 2567บริษัทฯได้บรรลุเงื่อนไขบังคับภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยกำลังการผลิตรวม 7.95เมกะวัตต์และจะเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มเติมในทันที”นายนิวัติกล่าวเพิ่มเติม