ผู้จัดการรายวัน 360 – “เบอร์เกอร์คิง” มาแหวกแนวอีกแล้ว ออกรสชาติใหม่ เบอร์เกอร์หมูกระทะ ในแคมเปญ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้” เร่งขยายฐานคนไทย คาดแคมเปญนี้จะเพิ่มปริมาณลูกค้าคนไทยโต 25% ตอบรับตลาดรวมเบอร์เกอร์ปีนี้คาดทะลุ 9,500 ล้านบาท โต 8.5%
นายเจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director และ คุณชนินทร์ นาคะรัตนากร Senior Digital Marketing Manager บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมเบอร์เกอร์ในไทยปี2567 คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 9,500 ล้านบาท เติบโต 8.5% ส่วนตลาดไก่ทอดคาดว่าจะมีประมาณ 35,000 ล้านบาท ซึ่งทัั้งสองตลาดมีการเติบโตที่ดี จากการฟื้นตัวของการบริโภคอย่างต่อเนื่องทั้งจากตลาดคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยมากขึ้น
ในส่วนของเบอร์เกอร์คิง ที่ผ่านมาก็มีการเติบโตดี 2 หลัก ด้วยกลยุทธ์การทำตลาดอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ก็มีแผนที่จะรุกตลาดด้วยการขยายฐานลูกค้าคนไทยต่อเนื่อ ง ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้” พร้อมกับการเปิดตัวเมนูใหม่ คือ เบอร์เกอร์หมูกระทะ เป็นครั้งแรก
จากข้อมูลดาต้าของผู้บริโภค ที่นิยมทานหมูกระทะอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อเดือน และจำนวน 26% ของการสำรวจบอกว่า ถ้าถูกหวยจะไปทานหมูกระทะ และ อีก 20% บอกว่า จะกินหมูกระทะหลังเลิกงานกับเพื่อน อีกอย่างคนไทยคุ้นเคยกับหมูกระทะมานาน ขณะเดียวกัน การทานหมูกระทะจะต้องไปกันเป็นกลุ่มหลายคน ซึ่งบางครั้งอาจจะรวมตัวกันยาก ดังนั้น การออกเบอร์เกอร์หมูกระทะ จึงตอบโจทย์ได้อย่างดี ทั้งคนที่ชอบทานและการทานแบบสะดวกได้ทุกเมื่อ ตัดปัญหาการมีกลิ่นติดเสื้อผ้า ติดผม ได้ด้วย และคาดว่าความถี่ในการเข้าร้านของลูกค้าจะเพิ่มเป็น 1.5 ครั้งต่อเดือน จากเดิมเฉลี่ย 1.3 ครั้งต่อเดือน ขณะที่ต่างประเทศเฉลี่ย 4 ครั้งต่อเดือน
โดยมีให้เลือก 2 เมนู คือ ซิงเกิ้ล หมูกระทะ เบอร์เกอร์ ราคา 89 บาท และดับเบิ้ล หมูกระทะ เบอร์เกอร์ ราคา 149 บาท ที่จะมาตอบโจทย์ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษข้าวหมูย่างซอสหมูกระทะ ราคา 79 บาท
เพื่อเป็นเมนูทางเลือกเพิ่มเติม รวมถึงเตรียมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ หลากหลายรูปแบบให้ผู้บริโภคเพื่อสร้างการจดจำ โดยเมนูดังกล่าวเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2567 จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ร้านเบอร์เกอร์คิงทุกสาขา (ยกเว้นสาขาท่าอากาศยานและสาขาท่องเที่ยว)
สำหรับกลยุทธ์ไทยซีรีส์ของเบอร์เกอร์คิงที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอเมนูรสชาติถูกปากคนไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เมนูโจ๊ก เมนูไก่ทอดหาดใหญ่ หรือเมนูของหวานอย่างพายขนมครก โดยครั้งนี้นอกจากการนำเสนอเมนูเบอร์เกอร์ใหม่ ยังได้ต่อยอดเมนูสุดฮิต ไก่ทอดหาดใหญ่โคตรหอมเจียว ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันยังได้รับกระแสตอบรับดี ดังนั้นในซีรีส์นี้จึงส่งความฟินแบบต่อเนื่อง
ด้วยการเพิ่มปริมาณหอมเจียวมากขึ้นถึง 3 เท่า ในราคา 149 บาท ควบคู่กับการทำกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ผ่านสื่อหลากรูปแบบในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็น การเปิดตัวเสื้อสงกรานต์ที่นำไก่ทอดหาดใหญ่มาเรียงร้อยในรูปแบบของเสื้อลายดอก การทำสื่อเต้นท์การ์ดให้กับร้านอาหารท้องถิ่นที่หยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ การเปิดตัวรถกุ๊กกุ๊กไก่ทอดหาดใหญ่ที่ช่วยสร้างการรับรู้ และกระตุ้นความสนใจจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายท้องถิ่นได้อย่างกว้างขวาง และการมอบส่วนลดในเมนูไก่ทอดหาดใหญ่สำหรับผู้ที่เดินทางโดยสารสายการบินทั้งในและต่างประเทศในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาอีกด้วย
“จากการดำเนินกลยุทธ์ภายใต้แคมเปญ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้" ทำให้เบอร์เกอร์คิงมีฐานผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 10% จำนวนการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 20% โดยการใช้จ่ายขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 300 บาทต่อบิล เพิ่มจากเดิมที่เฉลี่ย 280-290 บาทต่อบิลเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแคมเปญนี้จะเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่จะมาช่วยต่อยอดขยายฐานผู้บริโภคให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 สามารถขยายฐานผู้บริโภคคนไทย 25%” นายเจริญชัย กล่าว
นายชนินทร์ กล่าวว่า เบอร์เกอร์คิง ไม่หยุดรังสรรค์แคมเปญการตลาดใหม่ ๆ ตลอดทั้งปี รวมถึงการพัฒนาและคิดค้นเมนูประจำเทศกาล ตลอดจนการบริการ ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพ เบอร์เกอร์คิง ในฐานะผู้นำตลาดธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนแนวหน้าของไทย และเจ้าแห่งการสร้างกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีก
ปัจจุบันเบอร์เกอร์คิงมีสาขารวมประมาณ 123 สาขา กระจายอยู่กรุงเทพและปริมณฑล 70% และในต่างจังหวัด 30% (โดยอยู่ในภูเก็ตมากถึง 20% ) โดยกระจายอยู่ใน 25 จังหวัด หากรวมสาขาในสนามบิน แต่ถ้าเฉพาะพื้นที่ทั่วไปไม่รวมสาขาในสนามบินมีประมาณ 21 จังหวัด โดยมีแผนที่จะขยายสาขาต่อเนื่อง