วานนี้ (1 พฤษภาคม 2567) นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายพรยศ กลั่นกรอง นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางจินดา เตชะศรินทร์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย นายปณตสรรค์ สูจยานนท์ ผู้อำนวยการกองบริการงานอนุญาตโรงงาน 1 นายธีระ แก้วพิมล อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจติดตามเหตุเพลิงไหม้ซ้ำโกดังเก่า อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น อ.ภาชี ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก่า บริเวณอาคาร 3 4 และ 5 ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งควบคุมสถานการณ์ด้วยการฉีดโฟมและน้ำโกดังเก่าดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ มีการลักลอบกองเก็บกากอุตสาหกรรมประเภทกรดเสื่อมสภาพ สารเคมีอันตราย และสารอื่นๆ จำนวนประมาณ 4,000 ตัน รวม 5 โกดัง
ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุมาแล้วเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยเกิดเหตุที่อาคาร 1 และ 2 หลังจากควบคุมเพลิงได้แล้ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจหาสาเหตุ พบเป็นการวางเพลิง โดยใช้ระเบิดเพลิง กระจายทั่วบริเวณอาคาร 1 2 และ 3 มีลักษณะเป็นภาชนะพลาสติกด้านล่างหล่อปูนซีเมนต์ภายในบรรจุน้ำมัน ดัดแปลงติดประทัดไล่นกไว้กับก้านธูปเป็นตัวจุดระเบิด และใกล้กันพบขวดแก้วบรรจุอะลูมิเนียม พาวเดอร์ ซึ่งไม่เคยพบเห็นในโกดังนี้มาก่อน หากเกิดระเบิดอะลูมิเนียม พาวเดอร์จะส่งผลให้ระเบิดมีความต่อเนื่องและมีความรุนแรงขึ้น ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของสถานีตำรวจภูธรภาชี
หลังจากลงพื้นที่ อธิบดีกรมโรงงานฯ ได้ส่งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ ลงพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ บริเวณที่ทำการอำเภอภาชี และจุดที่ 2 โรงพยาบาลภาชี พบว่าค่าก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ที่ตรวจวัดไม่เกิน ตามประกาศกรมควบคุมมลพิษ เรื่องค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากค่าฝุ่นละอองมีค่าสูงกว่าค่ามาตรฐานในบรรยากาศทั่วไปค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ได้มีการอพยพผู้ป่วยและประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ ณ จุดเกิดเหตุโกดังภาชีอย่างใกล้ชิด
พร้อมกันนั้น อธิบดีกรมโรงงานฯ ได้นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรภาชี เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนนำผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ข้างต้นมาดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งในข้อหาที่เกี่ยวข้องต่อไป จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
เมื่อเวลา 00.33 น. ซึ่งผ่านไปกว่า 10 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็สามารถระงับเพลิงไหม้ภายในโกดังที่ 5 ได้แล้ว ยังเหลือโกดังที่ 4 ยังมีประกายไฟบางจุด ด้านนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานฯ ยังคงติดตามสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจากกลับจาก สภ.ภาชี โดยเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้ว
และในวันนี้ นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ลงพื้นที่ อ.ภาชี ประชุมร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเกี่ยวกับเหตุไฟไหม้โกดังภาชี เพื่อหาสาเหตุและวิธีป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และจะเดินทางไปจุดเกิดเหตุเพื่อติดตามสถานการณ์ต่อไป