ผู้จัดการรายวัน 360- ตลาดแม่ค้าออนไลน์แข็งแกร่ง เทียบชั้นเจ้าตลาดแล้ววันนี้ ดันอีคอมเมิร์ชไทยทะลุ 1 ล้านล้านบาทในปีนี้แน่นอน ชี้ภาพการตลาดเปลี่ยน Mass Brand ต้องใช้พละกำลังสูงส่งกระบวนท่าใหม่ๆ เข้าสู้ สะท้อนสื่อดิจิทัลแซงสื่อหลัก ชี้ KOL, อินฟลูฯ พุ่ง 2 ล้านคน ดันอุตสาหกรรมโฆษณาคาดโต 3.3% หรือมีมูลค่าที่ 87,617 ล้านบาท
นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า วิถีของผู้บริโภคไทยที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเข้าถึงช้อปปิ้งออนไลน์สูง ส่งผลให้ Mass Brands ถูกเบียดโดย Local Brands และ Niche Brands ที่ค่อยๆ เติบโตผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นโอกาสของผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้าที่มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ และรู้จักปรับตัว จึงคว้าโอกาสจากการแข่งขันในสมรภูมิออนไลน์ ได้มาก โดยมองว่าปีนี้อีคอมเมิร์ซไทยจะแตะ 1 ล้านล้านบาท จากปี 2566 มีมูลค่า 900,000 ล้านบาท
นายภวัต กล่าวต่อว่า หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จในยุคสังคมดิจิทัลและคว้าโอกาสจากเม็ดเงินมหาศาลนี้คือ 3C (Contact-Content-Commerce) หรือเนื้อหาที่โดนใจ สื่อสารผ่านช่องทางและเวลาที่ใช่ สร้างโอกาสในการขายได้มากกว่า
“ความได้เปรียบเสียเปรียบไม่ว่าจะกับผู้ประกอบการรายใหญ่หรือรายเล็ก รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้า ไม่ได้แตกต่างมากเหมือนในอดีต การซื้อขายในยุคสังคมดิจิทัล ผู้เล่นทุกรายแทบจะมีต้นทุนความได้เปรียบเสียเปรียบไม่ต่างกันเลยบนสมรภูมิเดียวกัน กลุ่มสินค้าสนับสนุนข้อเท็จจริงนี้ คือ 1.Personal & Beauty Care 2.Food, Café & Restaurants 3.Leisure“ นายภวัต กล่าว
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่า Local Brands และ Niche Brands สร้างยอดขายได้เติบโต แย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของ Mass Brands หรือ แบรนด์ที่เคยเป็นเจ้าตลาดใหญ่ๆได้อย่างมีนัยยะสำคัญ แน่นอนว่า Mass Brands หรือ แบรนด์เจ้าตลาดใหญ่ๆ บางแบรนด์ก็สามารถปรับตัว ป้องกัน และเพิ่มยอดขายได้ ซึ่งก็ต้องใช้พละกำลัง และกระบวนท่าใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน แต่ Local Brands และ Niche Brands ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อได้เปรียบ ความคล่องตัวในการปรับกลยุทธ์และเทคนิคการตลาด สื่อสารการตลาด รวมถึงการทำ Personalized Marketing รวมถึงการใช้ KOLs และ Influencers ที่ช่วยในการเข้าถึงมากขึ้น
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จบไตรมาสแรก เม็ดเงินโฆษณาและสื่อสารการตลาดแตะ 20,368 ล้านบาท หรือโต 7.4% และด้วยปัจจัยการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น MI GROUP คาดการณ์ว่า ความคึกคักของตลาดตลอดทั้งปีนี้ จะเติบโตอยู่ที่ 87,617 ล้านบาท หรือโต 3.3% หรือสัดส่วนจะเป็นดังนี้ สื่อโทรทัศน์และสื่อดั้งเดิมอื่นๆ (สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โรงภาพยนตร์) 35% สื่อดิจิทัล 45% สื่อนอกบ้าน (Out of Home & Transit Media) 20%
นายภวัต กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับเม็ดเงินสื่อดิจิทัลปีนี้คาดโตอีก 8% (ข้อมูลจาก DAAT) นัยยะสำคัญมาจากความนิยมและความร้อนแรงอย่างต่อเนื่องของ KOLs/ Influencers ที่นักการตลาด และผู้ประกอบการนิยมใช้งานมากขึ้นคาดการณ์จำนวน KOLs/ Influencers จะพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 2,000,000 คน (ข้อมูลตัวเลขบางส่วนจาก Nielsen) ซึ่งส่วนใหญ่เป็น KOLs/ Influencers ในกลุ่ม Micro และ Nano Influencers ในรูปแบบ Affiliate Programs ที่แพร่หลายและสมบูรณ์ขึ้น ซึ่งสนับสนุนให้ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียสามารถหารายได้เสริมได้ในยุคเศรษฐกิจซบเซาในปัจจุบัน.