ผู้จัดการรายวัน360 - SABINA ประเดิมไตรมาส 2 ของปีด้วยคอลเลคชั่นสุดปัง เฉลิมฉลองวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ด้วยการร่วมโครงการ “Nets Up” โมเดลการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อทะเลยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (SCGC) บริษัท นิล-วัน โปรเจ็ค จำกัด กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้าน จ.ระยอง พันธมิตรธุรกิจ และเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เพื่อเปลี่ยนอวนประมงที่ไม่ใช้แล้ว ให้กลายเป็นวัตถุดิบจากท้องทะเล (Marine Materials) ที่นำมาผลิตสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ “From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก” อย่างสุดสร้างสรรค์ โดยยังคงความสวยงามและสวมใส่สบาย พร้อมตอกย้ำจุดยืน SABINA ที่มุ่งมั่นจะเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นางสาวพิชชา ธนาลงกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า SABINA ตระหนักถึงปัญหาขยะทะเลที่เกิดจากการทิ้งอวนประมงที่ไม่ใช้แล้ว ที่มีมากถึงประมาณ 64,000 ตันต่อปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าวและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ภายใต้โครงการ “Nets Up” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (SCGC) บริษัท นิล-วัน โปรเจ็ค จำกัด กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้าน จ.ระยอง พันธมิตรธุรกิจ และเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ที่ได้สร้างระบบจัดเก็บอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วจากชาวประมงท้องถิ่น
“จากอวนที่ไม่ใช้แล้วจำนวนมหาศาล ได้กลายเป็นวัตถุดิบจากท้องทะเลหรือ Marine Materials ที่ SABINA มองเห็นโอกาส จึงได้เข้าร่วมโครงการ Nets Up ที่นำอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วมาพัฒนาและแปรรูปเป็นนวัตกรรมเส้นด้ายรีไซเคิล ก่อนจะนำไปทอเป็นผืน โดย SABINA นำมาตัดเย็บเป็นชุดชั้นในและเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นใหม่ “From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก” ซึ่ง SABINA นับเป็นแบรนด์แรกและเป็นผู้นำที่ได้ริเริ่มการสร้างผลิตภัณฑ์จากอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วมาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่” นางสาวพิชชากล่าว
สำหรับสินค้าในคอลเลคชั่น “From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก” จะประกอบด้วย เสื้อชั้นใน กางเกงชั้นใน เสื้อ กางเกงขาสั้น และเสื้อกล้ามเสริมบรา โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2567 ซึ่งตรงกับวันคุ้มครองโลก (Earth Day) เป็นต้นไป
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด SABINA กล่าวด้วยว่า SABINA ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในแวดวงแฟชั่น และเดินหน้าตอกย้ำการเป็นแบรนด์ชุดชั้นในที่ยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยการเข้าร่วมต่อยอดนวัตกรรมในโครงการ Nets Up ครั้งนี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาขยะทะเลตั้งแต่ต้นน้ำ ที่เริ่มจากการจัดเก็บอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วของชาวประมง ส่งต่อให้ SABINA ที่นำมาต่อยอดจากการใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษในการผลิตชุดชั้นในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยยังความสวยงามและสวมใส่สบาย ซึ่งเป็นจุดเด่นด้านนวัตกรรมของชุดชั้นในและผลิตภัณฑ์ SABINA ขณะเดียวกัน คอลเลคชั่น “From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก” ยังจะทำให้ลูกค้าของ SABINA ได้มีร่วมส่วนสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยคอลเลคชั่นนี้จะช่วยลดปริมาณขยะอวนประมงใช้แล้วได้ทั้งหมดประมาณ 620 กิโลกรัม และช่วยชดเชยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 4 ตัน
พบกับสินค้าคอลเล็กชัน “From Marine to Fashion จากท้องทะเล... สู่แฟชั่นรักษ์โลก” ที่ซาบีน่า ช็อป รวมถึงเคาน์เตอร์ซาบีน่า ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และซาบีน่าออนไลน์
สำหรับNets Up คือ โมเดลการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อทะเลยั่งยืน เปลี่ยนอวนประมงที่ไม่ใช้แล้ว สู่ Marine Materials วัสดุทางเลือกใหม่จากนวัตกรรมรีไซเคิล ช่วยจัดการอวนประมงที่ไม่ใช้แล้ว ไม่ให้หลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม และนำไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ธุรกิจสิ่งทอ ด้วยการขึ้นรูปเป็นเส้นด้ายและทอเป็นผืนผ้าสำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อัปไซเคิล สร้างทางเลือกใหม่ให้กับเจ้าของแบรนด์สินค้า และผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดปัญหาขยะทะเล พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างยั่งยืน และช่วยลดภาวะโลกร้อน