"สุริยะ" เผยภาพรวมสงกรานต์ รวม 6 วัน (11-16 เม.ย. 67) ประชาชนเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ 15.03 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.92% รถยนต์เข้า-ออกกรุงเทพฯ กว่า 13.87 ล้านคัน พอใจการอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย 16 เม.ย.อุบัติเหตุลดลง 12.50% -บาดเจ็บลดลง 15.21%
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงภาพรวมการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 สะสม 6 วัน (11-16 เม.ย. 2567) ว่า มีปริมาณการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศและระหว่างประเทศอยู่ที่ 15,035,465 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยระบบรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 43.41% และจากการร่วมมือของทุกหน่วยงานจึงทำให้การบริหารจัดการการขนส่งสาธารณะสามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัด ประกอบด้วย ทางถนน ทางราง และทางอากาศ โดยแยกตามภาคได้ดังนี้ 1. ทางราง 485,323 คน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 87,911 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 128,122 คน ภาคตะวันตก 43,478 คน ภาคตะวันออก 54,934 คน และภาคใต้ 170,878 คน
2. ทางอากาศ 543,017 คน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 79,576 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 56,815 คน ภาคกลาง (ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ) 253,038 คน ภาคตะวันออก (อู่ตะเภา) 1,286 คน ภาคใต้ 151,802 คน และภาคตะวันตก (หัวหิน) 500 คน
3. ทางถนน 822,725 คน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 113,377 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 191,696 คน ภาคกลาง 190,365 คน ภาคตะวันออก 103,749 คน และภาคใต้ 176,364 คน ส่วน การเดินทางด้วยรถหมวด 3 เป็นการเดินทางระหว่างจังหวัด 47,174 คน ไม่มีข้อมูลแยกรายภาค
ขณะที่ปริมาณจราจรบนถนนทางหลวงผ่าน 10 จุดสำรวจที่เป็นเส้นทางเข้า/ออก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ของกรมทางหลวง (ทล.) และทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีปริมาณรวม 13,877,651 คัน เป็นการเดินทางขาเข้ากรุงเทพฯ 9,645,974 คัน และขาออกกรุงเทพฯ 4,231,677 คัน
@ 16 เม.ย. มีอุบัติเหตุ 161 ครั้ง ลดลงจากปีก่อน 19.50%
ในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุ ประจำวันที่ 16 เมษายน 2567 พบว่าเกิดอุบัติเหตุรวม 161 ครั้ง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.50% และลดลง 12.50% จากเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567 ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บ รวม 195 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.72% และลดลง 15.21% จากเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567 ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28% และลดลง 18.18% จากเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567
ทั้งนี้ เห็นได้ว่าภาพรวมการสูญเสียเทียบวันต่อวันยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการที่ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อต้องการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยของประชาชนถึงที่สุด รวมถึงมุ่งหวังให้การเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการเสียชีวิตลดลงด้วย
สำหรับยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด 6 อันดับ ยอดรวมสะสม 6 วัน (วันที่ 11-16 เมษายน 2567) ได้แก่ อันดับที่ 1 ประเภทรถจักรยานยนต์ จำนวนเกิดเหตุรวม 684 ครั้ง อันดับที่ 2 รถปิกอัพบรรทุก 4 ล้อ จำนวนเกิดเหตุ 608 ครั้ง อันดับที่ 3 รถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวนเกิดเหตุรวม 517 ครั้ง อันดับที่ 4 รถบรรทุกพ่วง (มากกว่า 10 ล้อ) จำนวนเกิดเหตุรวม 47 ครั้ง อันดับที่ 5 รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวนเกิดเหตุรวม 39 ครั้ง และอันดับที่ 6 รถสามล้อเครื่อง จำนวนเกิดเหตุรวม 33 ครั้ง ซึ่งสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุเกิดจากขับขี่ยานพาหนะโดยไม่เคารพกฎหมายจราจร และขับขี่เร็วเกินกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะบริเวณทางตรง ไม่มีความลาดชัน
ขณะที่ภาพรวมสะสม 6 วัน (11-16 เมษายน 2567) พบว่าเกิดอุบัติเหตุรวม 1,286 ครั้ง เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 1% โดยมีผู้บาดเจ็บรวม 1,446 ราย และผู้เสียชีวิต 166 ราย ทั้งนี้ โครงข่ายทางน้ำ และทางอากาศ ยังคงไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด
นายสุริยะกล่าวอีกว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 มีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ 2567 จึงได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน โดยจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 4 ขบวน ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ขบวน และสายเหนืออีก 2 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มประมาณ 5,000 คน ได้แก่ 1. ขบวนรถที่ 962 สถานีศิลาอาสน์-สถานีกลางฯ ออกจากศิลาอาสน์ เวลา 19.40 น. ถึงเวลา 03.40 น. 2. ขบวนรถที่ 934 สถานีอุบลราชธานี-สถานีกลางฯ ออกจากอุบลราชธานี เวลา 19.30 น. ถึงเวลา 06.30 น.3. ขบวนรถที่ 936 สถานีอุดรธานี-สถานีกลางฯ ออกจากอุดรธานี เวลา 21.45 น. ถึงเวลา 07.50 น. 4. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 6 สถานีเชียงใหม่-สถานีกลางฯ ออกจากเชียงใหม่ เวลา 18.55 น. ถึงเวลา 07.35 น.
นอกจากนี้ รฟท.ได้พ่วงตู้โดยสารเพิ่มเติมเข้ากับขบวนรถที่มีเดินประจำในทุกเส้นทางให้เต็มหน่วยลากจูง จัดเตรียมรถโดยสารสำหรับหมุนเวียนเพิ่มเติมรวมกับขบวนรถที่มีเดินประจำในทุกเส้นทาง 214 ขบวนต่อวัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงถึง 105,000 คน ซึ่งเพียงพอต่อการเดินทาง และไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการขบวนรถเสริมประมาณ 5,000 คน ขบวนรถปกติประมาณ 100,000 คน
นายสุริยะกล่าวว่า สำหรับวันที่ 16 เม.ย. 2567 มีประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก ตนจึงได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง และเตรียมพร้อมระบบขนส่งสาธารณะ ต้องมีเพียงพอต่อปริมาณผู้โดยสาร ต้องไม่มีการเอาเปรียบคิดค่าโดยสารเกินจริงอย่างเด็ดขาด และมีการบริหารจัดการเชื่อมต่อการเดินทางจากสถานีขนส่ง รถโดยสารสาธารณะ รถไฟ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านถนน ยังคงเน้นย้ำให้ดูแลอำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงขากลับให้เกิดความคล่องตัว สร้างความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน
อีกทั้งเพิ่มพื้นที่และการสนับสนุนระบบการจราจร ลดปัญหาจุดที่เป็นคอขวด รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการประชาชนตลอดเส้นทาง อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง และช่องทางบริการให้ข้อมูลข่าวสารและรับเรื่องร้องเรียน และจุดบริการประชาชนผ่านศูนย์ปลอดภัยคมนาคม สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ร่วมกันดูแลอำนวยความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทาง ให้ประชาชนได้เดินทางถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพทั้งขาไปและขากลับตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 2567