xs
xsm
sm
md
lg

รู้หน้าไม่รู้วัย “ตก Gen ไม่ตกเทรนด์” จับตลาดให้ถูกทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - เอาท์แล้วที่จะเอาตัวเลขมาชี้วัดถึงอายุผู้คนในยุคนี้ เพราะผู้คนในวันนี้ดูแล้วอายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ รู้หน้าแต่ไม่รู้วัยกันมากมาย เดาอายุกันไม่ถูกจริงๆ ที่สำคัญหัวใจยังไม่ยอมแก่กันอีกด้วย “สปา-ฮาคูโฮโด” พาไปเจาะลึกทั้ง 5 เจน สู่ความว้าวที่เราต้องอึ้ง ตอกย้ำว่าเมื่อเรามีการอัพเดท upskill อยู่เสมอ แม้เราจะตก Gen แต่ไม่มีทางตกเทรนด์และเมื่อจับทางถูกใจทุกเจนแล้ว การทำตลาดก็อยู่ในกำมือ


บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัด ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันนี้คนเเต่ละเจนมีลักษณะพิเศษคล้ายๆ กัน กล่าวคือ 1.เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) เกิดก่อนปี คศ. 1964 อายุ 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนมากที่สุดในประเทศถึง 25% ของประชากรไทย และจะมีอายุยืนถึง 80 ปี เป็นเจนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง มักจะอนุรักษ์นิยม มีความอดทนสูง
 

2.เจนเอ็กซ์ (Gen X) เกิดปีค.ศ.1965 – 1979 อายุ 45 – 59 ปี มีสัดส่วนประชากร 17% เป็นเจนที่ปรับตัวง่าย มีความรับผิดชอบสูง
 
3.เจนวาย (Gen Y) เกิดปี ค.ศ.1980 – 1995 อายุ 29–44 ปี มีสัดส่วนประชากรเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 23.5% ชอบแสดงออก มีความเป็นตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบ
 

4.เจนซี (Gen Z) เกิดปี ค.ศ. 1996 – 2010 อายุ 14–28 ปี มีสัดส่วนประชากร 19.5% เรียนรู้เร็ว มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบพัฒนาตัวเอง เชื่อว่าทุกคนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
 
5.อัลฟา (Alpha) เกิดปีค.ศ. 2010 - 2025 อายุต่ํากว่า 14 ปีลงมา มีสัดส่วนประชากร 15% เป็นเจนที่เกิดมาพร้อมเทคโนโลยีเอไอ ประสบการณ์ชีวิตเชื่อมโยงระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนจริงในทุกมิติ
 


“เมื่อดูผิวเผินคนอาจถูกแบ่งง่ายๆ ตามอายุ แต่เมื่อดูอย่างลึกซึ้งการใช้ชีวิตของคนยุคนี้มันอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับทัศนคติและการใช้ชีวิตมากกว่า ที่สปา-ฮาคูโฮโด เราใช้ดาต้าเพื่อเห็นโครงสร้างของแต่ละเจน และใช้การมองดู ติดตามพูดคุยกับทุกเจนเพื่อให้เห็นมิติที่ลึกไปกว่านั้น เพื่อจะหาโซลูชั่นที่โดนใจทั้งผู้คน นักการตลาด และอาจช่วยลดช่องว่างระหว่างวัยกับคนในสังคมไทยด้วย มาดูกันว่าแต่ละเจนมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง” จิรภัทร์ กาญจะโนสถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัด กล่าว

เคยคิดกันมั้ยว่า จริงๆ แล้วคุณเป็นคนเจนไหน? ไปค้นหากันกับ 5 เจนในยุคนี้

1.BABY BOOMER GENERATION
Reborneration วัยแห่งการกลับมาใช้ชีวิตของตัวเอง เป็นเจนที่หัวใจกลับมาผลิบานอีกครั้ง พร้อมทดลอง เริ่มต้นใหม่ๆ ในชีวิต เป็นเจนที่กลับมาโฟกัสที่ตัวเองเป็นหลัก คนเจนนี้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตเต็มที่เพื่อตัวเองอีกครั้ง เรียนรู้โซเชียลและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อจะได้อัพเดทตัวเองให้ทันโลก ได้ลองสิ่งใหม่ๆ ตามล่าความฝันในอดีต หลายๆ คนได้ลองเล่นกีฬาผาดโผน เดินทางไปในที่ที่ไม่เคยไป หรือค้นพบตัวเองในเวอร์ชั่นใหม่ๆ เป็น Oldfluencer หรือ Tiktoker

โดยสรุปแล้ว เบบี้บูมเมอร์ ในวันนี้เป็นเจนที่
1..พร้อมออกไปใช้ชีวิตเต็มที่ตามล่าความฝันอีกครั้ง
2.แม้ร่างกายร่วงโรย แต่หัวใจเบิกบาน มีความสุข = การมีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ
3.เป็นพี่ใหญ่ในชีวิตจริง แต่เป็นน้องใหม่ในโลกโซเชียล
4.หาตัวช่วยที่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นและสามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์

Implication to marketers : เฉลิมฉลองเจนเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) ด้วยความเข้าใจ ทำให้พวกเค้าภูมิใจกับการเป็นคนแก่ที่ไม่ตกโลก สะท้อนถึงภาพลักษณ์ในเชิงบวกของคนเจนนี้ เช่น เบทาโกรที่เล่าเรื่องราวของคนทุกเจน โดยถ่ายทอดผ่านคนเจนเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) ที่ล้ำสมัยทันโลก ก็เป็นการดึงภาพลักษณ์ของคนเจนนี้ให้ดูทันสมัยขึ้นแถมยังสามารถขยายกลุ่มลูกค้าออกไปได้กว้างขึ้น หรือ สินค้าที่ช่วยทำให้บูมเมอร์ใช้ชีวิตได้เต็มที่มากขึ้น ทั้งแง่การช่วยเหลือตัวเองและการออกไปใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ เช่น ไลฟ์รี่ ที่นำเสนอผ้าอ้อมแบบกางเกงสวมง่ายสำหรับผู้สูงวัย


2.GENERATION X
Caretaker & Carrier ผู้แบกทุกคนด้วยความใส่ใจ เรียกได้ว่าเป็นเจนที่เป็นเดอะแบกของแท้ ที่ดูแลแบกทุกคนไว้ด้วยความรัก ทั้งพ่อแม่ ลูกหลาน และไหนเลยจะลูกน้องที่ทำงานอีกด้วย ใช้ชีวิตเพื่อดูแลทุกคนและแบ่งเวลาให้ตัวเองด้วย บริหารจัดการเก่งระดับมือโปร ชอบหวนรำลึกถึงวันวานที่ยังหวานอยู่ด้วยความโหยหา เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนที่รักที่สุด ทุกสิ่งต้องรู้ที่มาที่ไปเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวเองและคนที่รัก

โดยสรุปแล้ว เจนเอ็กซ์ ในวันนี้เป็นเจนที่
1.ใช้ชีวิตทุกด้านอย่างสมดุลทั้งงาน ครอบครัว สุขภาพ และบุคลิกภาพความสวยงาม
2.ใส่ใจทุกรายละเอียดให้คุณค่ากับกระบวนการทุกขั้นตอน
3.ชอบหวนรำลึกถึงวันวานที่ยังหวานอยู่ด้วยความโหยหา
4.สร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเองผ่านความจริง สามารถเช็คที่มาที่ไปได้

Key implication to marketers : นำเสนอสินค้าหรือบริการช่วยให้การดูแลทุกคนในบ้านง่ายสะดวกสบาย และทำให้เค้าดูเป็นฮีโร่ของครอบครัวที่สามารถดูแลทุกคนได้อย่างดีที่สุด เช่น แคมเปญ Haier เทคโนโลยีสุดที่รัก เพื่อคนที่คุณรักที่สุด ที่เล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของเดอะแบกผู้ดูแลทุกคนในบ้านไม่เว้นแม้กระทั่งน้องหมา


3.GENERATION Y
Experience Explorer ประสบการณ์คือสิ่งล้ำค่าในชีวิต เพราะ “ชีวิตมีครั้งเดียว ใช้ซะ” นี่คือ YOLO หรือ motto ของเจนนี้ สำหรับเจนนี้สมบัติที่ล้ำค่าคือประสบการณ์ชีวิต พวกเขาจึงทำงานหนัก เพื่อจะได้มีเงินไปใช้ชีวิตได้เต็มที่ในทุกด้าน ทั้งการท่องเที่ยว ดำน้ำ skydiving surfing เมื่อใช้ชีวิตหนักขนาดนี้ การดูแลสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญและยอมลงทุนเพื่อสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง

โดยสรุปแล้ว เจน Y ในวันนี้เป็นเจนที่
1.เดินทางเพื่อเก็บแต้มประสบการณ์
2.สุขภาพดีคือไลฟ์สไตล์
3.เลี้ยงสัตว์เป็นครอบครัว
4.จะหญิงหรือชายก็เป็นผู้นำการเลี้ยงลูกได้

Key implication to marketers : โฟกัสมากกว่าแค่เป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพ มีขั้นตอนที่พิเศษเหนือใคร แต่ต้องเป็นสินค้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ด้วย เช่น S-pure ที่ขายมากกว่าแค่อาหารสดปลอดสาร แต่คือวิถีชีวิตแบบธรรมชาติที่เหมาะกับคนเจนนี้ หรือสินค้าบริการที่ช่วยทำให้สายท่องเที่ยวออกไปมีประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ไม่ซ้ำใคร เช่น แอป klook ที่นำเสนอที่เที่ยวและประสบการณ์ใหม่ๆแม้จะไปประเทศเดิมๆ ก็ไม่ต้องเที่ยวซ้ำๆ แบบเดิมๆ


4.GENERATION Z
Conscious Activist ผู้กล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า เป็นเจนที่เรียกร้องและต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม สังคมชุมชนที่ดี โลกที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน เชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ยอมรับในความหลากหลายทุกมิติตั้งแต่เรื่องอาหาร วัฒนธรรม ภาษา หรือเพศ เปิดกว้างเรื่องเพศภาพอย่างอิสระ มีความลื่นไหลทางเพศสูง มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในโลกดิจิตอลมากกว่าโลกแห่งความจริง

โดยสรุปแล้ว เจน Z ในวันนี้เป็นเจนที่
1.กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก
2.ทำในสิ่งที่เชื่อ เรียกร้องความเท่าเทียมในสังคม
3.พร้อมจะสร้างโลกที่ยั่งยืน
4.เปิดกว้างและมีความลื่นไหลทางเพศสูง

Key implication to marketers : หากใช้พรีเซนเตอร์ ต้องสื่อสารแสดงถึงความเข้าใจในหัวใจนักสู้หน้าใส ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง เพื่อทำให้ Gen Z รู้สึกว่ามีคนเข้าใจและเชื่อมั่นในตัวพวกเค้า เช่น ชาคูลซ่า ที่ใช้ paper plane มาเล่าความเชื่อของแบรนด์ ที่เชื่อว่าเด็กยุคใหม่ถึงแม้จะแสดงออกด้วยความซ่าแต่จริงๆ สิ่งดีๆ ที่ซ้อนเร้นอยู่ ทั้งความสามารถ ความคิดต่างๆ หรือพรีเซนเตอร์สายวาย ที่แสดงตัวตนแบบอิสระทางเพศ ทำให้เข้าถึง Gen Z ได้อย่างเข้าใจมากขึ้น อย่างที่ซี-วิทใช้ซีและนุนิวในแคมเปญล่าสุด


5.ALPHA GENERATION
Digital Native Learner นักเรียนรู้ยุค AI เจนนี้เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต การเรียนรู้ interactive มากกว่าเจนอื่นๆ ทั้ง QR AR VR ต่างๆ ดิจิตอลเทคโนโลยีทำให้เข้าถึงข้อมูลทั่วโลกได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วมือ ทำให้เด็กรุ่นนี้พร้อมไปด้วยคลังความรู้มากมาย เป็นประชากรโลกอย่างสมบูรณ์ เข้าใจในความแตกต่างไม่ใช่แค่ผิวเผินแต่ลึกซึ้งไปถึงบริบทวัฒนธรรม การเป็นอยู่ ความเชื่อ ความนึกคิดได้อย่างไร้อคติ

โดยสรุปแล้ว อัลฟาเจน ในวันนี้เป็นเจนที่
1.ผู้มีประสบการณ์สูงในโลกดิจิตอลและเทคโนโลยี
2.ติดต่อผู้คนผ่านโซเชียลและโลกเสมือน
3. ต้องปรับตัวในโลกจริงมากกว่าโลกดิจิตอล/โลกเสมือน
4.ประชากรโลกที่มีความเข้าใจในความแตกต่างอย่างไร้อคติ

Key implication to marketers : ผู้ใช้สินค้า/บริการ อาจเป็น alpha gen แต่ผู้ที่ตัดสินใจและจ่ายเงินคือพ่อแม่ Gen Y ดังนั้นการสื่อสารที่สะท้อนถึงความเข้าใจการเรียนรู้ของเด็กยุคใหม่และเป็นทางเลือกที่ช่วยให้พ่อแม่ปลดปล่อยศักยภาพของลูกได้อย่างเต็มที่จะทำให้ แบรนด์คุณได้ทั้งใจและเงินกับคนทั้ง 2 เจน อย่างที่ Kumon ทำ

ถ้าคุณอ่านถึงตรงนี้ ก็พอจะรู้แล้วว่าจริงๆ คุณเป็นคนเจนไหน การที่เราอัพเดท upskill อยู่เสมอ แม้ทำให้เราตก Gen แต่ไม่ตกเทรนด์ไปได้อย่างยั่งยืน จะอายุแค่ไหนก็เด็กได้ถ้าปรับตัวไวให้ทันเด็กให้ทันโลก.









กำลังโหลดความคิดเห็น