บางจากฯ ลั่นปีนี้ OKEA ผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นแตะ 40,000 บาร์เรล/วันหลังประสบความสำเร็จในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม Hasselmus หนุนกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน OKEA ยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการจากการเข้าซื้อแหล่งปิโตรเลียม Statfjord พบว่ามีปริมาณสำรองปิโตรเลียมน้อยกว่าที่คาด 10-15% คาดมีการปกปิดข้อมูลจนต้องบันทึกด้อยค่าฯ ปี 66 ถึง 2 พันล้านบาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า ในปี 2567 กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติขั้นต้นจะสร้างกระแสเงินสดให้บางจากฯ เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจาก OKEA ASA (OKEA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BCP ถือหุ้นร้อยละ 45.94 ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม Hasselmus เสร็จสมบูรณ์ก่อนกำหนด โดยแหล่ง Hasselmus ตั้งอยู่ใกล้กับโครงสร้างพื้นฐานของแหล่ง Draugen ซึ่งปริมาณการผลิตจากแหล่งนี้ ถูกส่งมารวมกับปริมาณการผลิตของแหล่ง Draugen ที่ OKEA เป็นผู้ดำเนินการ (Operator) ส่งผลให้มีปริมาณการผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566 OKEAได้รับโอนสิทธิ์จากการเข้าซื้อในแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ในสัดส่วนร้อยละ 28 ทำให้กำลังการผลิตของ OKEA ในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 35,000-40,0000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 24,590 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 47
อย่างไรก็ตาม แหล่งปิโตรเลียม Statfjord ในทะเลนอร์เวย์ พบว่ามีปริมาณการผลิตและปิโตรเลียมสำรอง (P2) น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ในไตรมาส 4/2566 บางจากฯ บันทึกรับรู้การตั้งด้อยค่าจากการลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นของ OKEA หลังหักภาษีจำนวน 619 ล้านโครนนอร์เวย์ หรือเทียบเท่า 2,040 ล้านบาท
ล่าสุด OKEA ตัดสินใจดำเนินการยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการ จากการเข้าซื้อแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ว่ามีการให้ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ หรือปกปิดข้อมูล ทำให้เกิดความผิดพลาดในข้อมูลปริมาณปิโตรเลียมสำรองแหล่ง Statfjord น้อยกว่าที่ตัวเลขบริษัทที่ปรึกษาได้คาดการณ์ไว้ประมาณ 10-15%
ปัจจุบัน OKEA ASA ถือสิทธิในแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ 7 แห่ง ได้แก่ Draugen, Brage, Gjøa, Yme, Ivar Aasen, Nova และ Hasselmus โดยมีสัดส่วนการผลิตก๊าซธรรมชาติคิดเป็น 1/3 และน้ำมันดิบอีก 2/3 โดยมีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งต่างๆ ในจำนวน 2 หมื่นบาร์เรลต่อวัน นอกจากนั้น ยังถือสิทธิในการสำรวจปิโตรเลียมอีกหลายแหล่งในนอร์เวย์ บริษัท OKEA ส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้เกือบทั้งหมดไปยังประเทศในยุโรป โดยยุโรปนำเข้าก๊าซธรรมชาติ 1/3 ส่วนจากนอร์เวย์
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บางจากจะเร่งปลดป้ายโลโก้แบรนด์ ESSO ในสถานีบริการเอสโซ่ทั่วประเทศ เป็นป้ายโลโก้แบรนด์ บางจาก ซึ่งเร็วกว่าสัญญาที่ได้ทำไว้กับเอ็กซอน โมบิลให้บางจากสามารถใช้โลโก้ ESSO ได้ 2 ปีถึงเดือนสิงหาคม 2568
สำหรับการควบรวมสถานีบริการ ESSO มาเป็นสถานีบริการบางจาก ทำให้บางจากส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ในเดือนมกราคม 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 29.4% จากเดิมทั้งสองแบรนด์รวมกันอยู่ที่ 28.5% เพิ่มขึ้น 1% แสดงว่าการมีสถานีบริการน้ำมัน ESSO เดิมอยู่ใกล้สถานีน้ำมันบางจาก ไม่ก็ให้เกิดการแย่งลูกค้าแต่เป็นการช่วยเสริมกัน กระตุ้นให้ลูกค้าอยากแวะเติมน้ำมันมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการบางจากงวดปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 385,853 ล้านบาท โตขึ้น 18% จากปีก่อน และมีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 13,233 ล้านบาท โตขึ้น 5% จากปีก่อน สูงสุดสร้างสถิติใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ คิดเป็น กำไรต่อหุ้น 9.27 บาท โดยมี EBITDA 41,680 ล้านบาท ลดลง 7% จากปีก่อน ตามการเติบโตของทุกธุรกิจ
โดยปี 2566 บางจากปิดดีลการซื้อบริษัท เอสโซ่ มีการบันทึกกำไรพิเศษจากการต่อรองราคาซื้อที่เกิดจากการประเมินมูลค่ายุติธรรมของทรัพย์สิน (PPA) จำนวน 7,389 ล้านบาท จากการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC (ชื่อเดิม บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)) สัดส่วน 76.34% และได้การรับรู้ผลการดำเนินงานเข้ามาในงบการเงินรวมของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 66 เป็นต้นมา
