PTTGC เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2593 ตามกลยุทธ์ 3 Step Plus หวังสู่องค์กรยั่งยืน พร้อมปรับพอร์ตธุรกิจมุ่งสู่ Hight Value and Low Carbon
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยในงานสัมมนา Sustainable Daily Talk Action for Change : ทำเดี๋ยวนี้! เพื่อการเปลี่ยนแปลง ในหัวข้อภาคธุรกิจกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน วันนี้ (1 เม.ย.) ว่า บริษัทมีเป้าหมายในการเดินหน้าองค์กรสู่ธุรกิจเติบโตควบคู่การลดคาร์บอน โดยตั้งเป้าหมาย Commitment to Net Zero ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593 ) พร้อมทั้งปรับ Portfolio มุ่งสู่ธุรกิจ Hight Value and Low Carbon ด้วย
ปัจจุบันบริษัทมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนองค์กรภายใต้สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และมุ่งสู่องค์กรยั่งยืน ที่คงความสามารถในการทำกำไรด้วยผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต โดยสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ ตอบสนองต่อความต้องการ คำนึงถึงสุขภาพ สังคมเมือง ที่จะช่วยให้อยู่ในสังคมเมืองได้ดี รวมถึงเรื่องดิจิทัล ซึ่งบริษัทดำเนินการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนแปลง
โดยบริษัทฯ วางกลยุทธ์ 3 Step Plus เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งสู่ Hight Value and Low Carbon ประกอบด้วย 1. Step Change: ยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ
2. Step Out: แสวงหาโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ในต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่บริษัทระดับโลก และตอบโจทย์ธุรกิจ Low Carbon โดยที่ผ่านมาบริษัทร่วมกับ allnex ได้สร้าง Synergy และแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญที่มีทั้งด้านปฏิบัติการ และด้านนวัตกรรม โดยจะขยายความร่วมมือไปในด้านอื่นเพิ่มเติม เช่น ด้านความยั่งยืน หรือ Digitalization ในอนาคต โดยที่ผ่านมา PTTGC และ allnex ได้ก่อตั้ง Thailand Innovation Hub เป็นศูนย์นวัตกรรม เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน และอยู่ระหว่างการต่อยอดความร่วมมือไปยังบริษัทอื่นๆ ในกลุ่ม
3. Step Up: รักษาความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลกภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืนและการดำเนินงานด้าน Decarbonization ตามเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ รวมถึง Enablers for Transformation หรือการเปลี่ยนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพร้อมสำหรับการเติบโต
นายคงกระพันกล่าวว่า เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจเติบโตควบคู่การลดคาร์บอน บริษัทยังปรับ Portfolio มุ่งสู่ธุรกิจ High Value and Low Carbon โดยในกลุ่ม High Value ในกลุ่ม Specialty & Performance Chemicals มุ่งสู่ผลิตภัณฑ์ที่ทนทานมากขึ้น การต่อยอดธุรกิจใหม่ที่สร้างมูลค่า เพิ่มอัตราผลตอบแทนกำไรที่ดี วัสดุปลอดภัย และควบคู่กับการลดคาร์บอน เช่น ลดการใช้ทรัพยากร ลดการปล่อย GHG รวมถึง Zero Carbon Footprint
ขณะที่ธุรกิจ Bio-based ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร มีสินค้าที่ย่อยสลายได้ ลดขยะพลาสติก มีผลิตภัณฑ์ทางเลือก Carbon Footprint ต่ำที่สุด ลดการปล่อย GHG สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพลาสติกใช้แล้ว สร้างงานสร้างรายได้ รวมถึงประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมได้ ซึ่งจะเป็นในกลุ่มของ Circularity & Recycling