ผู้จัดการรายวัน 360- แกร็บ เปิดแผนธุรกิจปี 67 ชูไฮไลท์ “4A”ผุดบริการใหม่ SAVER เน้นความคุ้มค่า ใช้ AI เสริมแกร่ง-พัฒนาอีโคซิสเต็ม โหมธุรกิจโฆษณา-บริการใหม่ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แกร็บมองเห็นสัญญาณเชิงบวกและเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของทั้งภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยปัจจุบันประเทศไทยมีมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลสูงถึง 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และเฉพาะกลุ่มธุรกิจเรียกรถผ่านแอปและฟู้ดเดลิเวอรี ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 15% ภายในปี 2568
โดยปีนี้แกร็บ ประเทศไทย เตรียมเดินหน้ารุกธุรกิจเต็มสูบเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ล่าสุดปีนี้ แกร็บ ประเทศไทย มุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจเน้น 4 ประเด็นหลัก หรือ 4A ประกอบด้วย 1.Active Users :ให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้า 3 กลุ่มหลัก คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สมาชิกแพ็กเกจ GrabUnlimited และลูกค้าคุณภาพ ที่ใช้บริการเป็นประจำ (Quality User) ไม่ว่าจะเป็น การยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว การเปิดตัวแพ็กเกจสมาชิกแบบรายปีเพื่อรักษาฐานลูกค้าในระยะยาว
2.Affordability : แกร็บได้เปิดตัวบริการ GrabCar SAVER สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ขนาดเล็กในราคาประหยัดลงสูงสุดถึง 15% เมื่อเทียบกับบริการ GrabCar ปัจจุบันทดลองให้บริการ 20 จังหวัด และบริการ GrabBike SAVER สำหรับการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ ในระยะทางไม่เกิน 4 กิโลเมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 26 บาท ในส่วนของธุรกิจเดลิเวอรี ได้เปิดตัวซับแบรนด์ใหม่ Hot Deals เป็นเครื่องหมายการันตีความคุ้มเอาใจสายประหยัดนำเสนอเมนูเด็ดที่ลดราคาเป็นพิเศษจากหลากหลายร้านอาหาร พร้อมส่วนลดออนท็อปในทุกช่วงเวลาให้ได้อิ่มคุ้มทั้งวัน
3. AI Technology : ปีนี้นำ AI และ ML มาใช้ปรับปรุงและพัฒนาระบบพิจารณาเครดิตสำหรับการให้สินเชื่อกับพาร์ทเนอร์ หรือการพัฒนา GrabGPT เพื่อเป็นประโยชน์ในการทำคอนเทนต์หรืองานออกแบบภายในองค์กร
4. Ads & New Services : แกร็บเตรียมขยายบริการ GrabAds เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโฆษณา เตรียมผลักดัน “Self-serve Ads” เครื่องมือในการโฆษณาสำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้า ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กสามารถเพิ่มยอดขายจากการทำโฆษณาและแนะนำโปรโมชันกับลูกค้าได้ด้วยตัวเอง โดยมีผลตอบแทนจากการโฆษณา (Return on Ad Spend) เฉลี่ยสูงถึง 6 เท่า.
