xs
xsm
sm
md
lg

MB Club ผนึก ททท.เปิดตัว E-BOOK ท่องเที่ยวเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ นำบล็อกเกอร์ทำกิจกรรมรักษ์โลก-ปลูกป่า ณ คลองโคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพันธมิตร ได้แก่ บริษัท ณัฐสุรงค์ จำกัด, Travel Radio เอฟเอ็ม 101, Blogtech และสมาคมภัตตาคารไทย เปิดตัว E-Book ท่องเที่ยวเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ Low-Carbon Economy หรือเศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่ำ รูปแบบเศรษฐกิจแบบใหม่ที่หลายๆ ประเทศเริ่มรณรงค์มากขึ้น เพื่อลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้มากที่สุด ขณะนี้ภาคส่วนและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยกำลังปรับตัวสู่เศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่ำครั้งใหญ่

E-BOOK เล่มนี้จะพาไปสัมผัสการท่องเที่ยวชุมชน โดยถ่ายทอดเรื่องราวของชุมชนท่องเที่ยวทั่วไทยที่ก้าวสู่ Low Carbon บางแห่งได้ดำเนินการจนเป็นผลสำเร็จและเป็นต้นแบบไปแล้ว อีกหลายแห่งอยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก้าวสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ลดปัญหาโลกร้อน ลดฝุ่น PM 2.5 ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ควบคู่กับการสืบสานวัฒนธรรมชุมชนอย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนตนเองสู่การเป็นสังคมปลอดคาร์บอน (Zero Carbon)

ใน E-BOOK เล่มนี้ยังมีเนื้อหาหลากวิถีเรื่องราว BCG (Bio-Circular-Green หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว), Net Zero (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์), Carbon Neutral (ความเป็นกลางทางคาร์บอน) รวมถึง Low Carbon and Sustainable Business การดำเนินธุรกิจขององค์กรต่างๆ ที่ร่วมสนับสนุนธุรกิจคาร์บอนต่ำ ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนในอนาคต

สำหรับกิจกรรมที่กลุ่มบล็อกเกอร์ของมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับได้เข้าร่วมกับหนึ่งในชุมชนของโครงการใน E-BOOK เล่มนี้คือ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม ด้วยการล่องเรือชมระบบนิเวศป่าชายเลน ชมนกนานาชนิด ลิงแสม สัมผัสกับชีวิตชาวประมง “คนคลองที่คลองโคน” และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ เช่น สกีกระดานเลน ลุยโคลนปลูกป่า เก็บหอยแครง รับประทานอาหารคาร์บอนต่ำ โดยใช้วัตถุดิบและอาหารทะเลในท้องถิ่น เช่น ปลากะพงทอดน้ำปลา กุ้งทอดซอสมะขาม หมึกผัดกะปิ ต้มยำโป๊ะแตกทะเล หอยหลอดผัดฉ่า ยำทะเลผักชะคราม หอยแครงลวก โดยหอยแครงที่คลองโคนมีขนาดไซส์ใหญ่ นับเป็นแหล่งที่มีหอยแครงตามธรรมชาติจำนวนมาก

ก่อนปิดท้ายด้วยกิจกรรมรักษ์โลก เหล่าบล็อกเกอร์ร่วมกันปลูกป่าชายเลน ณ คลองโคน ทั้งยังได้ร่วมกันทำสัญลักษณ์คำว่า Low Carbon จากเสื้อชูชีพบนโคลนอีกด้วย เพื่อให้ตระหนักถึงภาวะโลกร้อนและเชิญชวนให้ท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ ทั้งยังได้นำเสนอเรื่องราวให้ผู้อ่านได้ท่องเที่ยวตามรอยด้วยอรรถรส และความสนุกสนานตามสไตล์ของแต่ละคน

ปัจจุบันป่าชายเลนที่คลองโคนมีขนาดใหญ่กว่า 8 พันไร่ จัดเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์มากเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำต่างๆ ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นแหล่งผลิตออกซิเจนที่สำคัญ ป่าชายเลนถือเป็นพื้นที่ตามธรรมชาติ ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เพราะสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ และช่วยกักเก็บก๊าซเรือนกระจก ตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยพื้นที่ป่าชายเลนในไทยสามารถดูดกลับคาร์บอนได้กว่าปีละ 9.4 ตันต่อไร่ 

โครงการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ Low-Carbon Economy ในการทำกิจกรรม ณ คลองโคน เมื่อจัดทำโครงการแล้วเสร็จจะมีการคำนวณปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกไปตลอดรอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) หรือปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ปล่อยออกมาตลอดกิจกรรม แล้วทำการชดเชยคาร์บอน เพื่อทำให้ทริปนี้เข้าสู่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral และขอรับประกาศนียบัตรรับรองโครงการโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) หรือ อบก.ต่อไป 

 


กำลังโหลดความคิดเห็น