xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มแล้ว!เทศกาล "OTOP ของดีวิถีราง"สถานีกลางกรุงเทพฯ "สุรพงษ์”ดันต่อยอดกระจาย 400 สถานีทั่วไทย โปรโมทนักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เริ่มแล้ว! เทศกาล "OTOP ของดีวิถีริมราง" ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ รฟท.คัดของดี ของอร่อยทั่วประเทศมาให้ช้อป “สุรพงษ์”ผลักดันต่อยอดโชว์นักท่องเที่ยวรับรู้ หวังเพิ่มช่องทางส่งออกไปทั่วโลก

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานเทศกาล “OTOP ของดีวิถีริมราง” ว่าจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายผลักดัน Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติออกไปทั่วโลก  ซึ่งโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่รัฐบาลได้เริ่มขึ้นเมื่อปี2540 มีการคัดสรรสินค้าจากระดับตำบลสู่ระดับจังหวัดและระดับชาติประกอบกับนโยบายฟรีวีซ่า ในปัจจุบันซึ่งกระตุ้นให้มีการเดินทางและนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ทั้งทางบก ทางอากศ ทางราง และทางน้ำ ที่จะเกิดการใช้จ่ายตลอดการเดินทาง 


การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จัดงานเทศกาล “OTOP ของดีวิถีริมราง” ครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อเปิดให้ผู้ประกอบการสินค้าและบริการจากโอทอป และผู้จำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงที่อยู่ริมสายทางรถไฟทั่วประเทศ มาจัดจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2567 เริ่มตั้งแต่เวลา09.00 -21.30 น. ณ ชั้น M ประตู 4 นั้นสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและได้มอบหมายผู้ว่าฯรฟท. เปิดพื้นที่สถานีรถไฟที่มีกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ คัดสรรสินค้าโอทอป วางจำหน่ายเพื่อกระจายรายได้ให้ประชาชน

“กระทรวงคมนาคมมีโครงข่ายการขนส่งทั้งคนและสินค้า จากจังหวัดสู่จังหวัด ทั้งรถไฟ ทางถนน มีบขส. รวมถึงทางน้ำและทางอากาศ ที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลให้สำเร็จ และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้รับรู้สินค้าโอทอปของไทยเพื่อขยายสู่การส่งออกไปทั่วโลก ช่วยเสริมสร้างซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตที่ได้จากการจากการท่องเที่ยวอีกด้วย”


สำหรับสถานีกลางกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการประมาณ 20,000 คน/วัน โดยมีรถไฟทางไกล และรถไฟชานเมืองสายสีแดง ให้บริการ

ทั้งนี้ การจัดเทศกาล “OTOP ของดีวิถีริมราง” ดังกล่าวถือเป็นการเปิดพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาไทยจากชุมชนในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะที่อยู่ริมทางรถไฟ สู่ตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อีกทั้งช่วยเพิ่มช่องทางให้แก่ชุมชนท้องถิ่นในการส่งเสริมสินค้าที่มีคุณภาพจากผลผลิตคนไทย มุ่งหวังให้ผู้ผลิตมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น สร้างความยั่งยืนแก่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ซึ่งถือเป็นการสร้างสาธารณประโยชน์ที่การรถไฟฯ ทำเพื่อประชาชน และสนับสนุนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาลในการช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย


ทั้งนี้ บรรยากาศ ภายในงาน จะได้สัมผัสกับเอกลักษณ์ภูมิปัญญาที่แสดงความเป็นท้องถิ่นไทยในแต่ละภูมิภาค ทั้งอาหารและสินค้าพื้นเมืองจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ กว่า 100 ร้านค้า และมีเวที ดนตรี ให้ความบันเทิงผู้ร่วมงานได้อิ่มอร่อยและเพลิดเพลินกับของดีตลอดทั้ง 3 วัน ซึ่งพบว่า ประชาชนที่รอการเดินทาง และประชาชนจากพื้นที่จังหวัดใกล้กทม. เช่น นครปฐม เดินทาง ร่วมจับจ่ายซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก






กำลังโหลดความคิดเห็น