ผู้จัดการรายวัน 360 - ช่อง 3 กดรีโมตต่อยอดหารายได้เพิ่มจากละคร ด้วยกลยุทธ์ IMC พร้อมเปิดร้าน C3 มุ่งขายสินค้าเมอร์ชั่นไดซ์จริงจัง ปักหมุด 5 เรื่องในปีนี้ ประเดิมด้วย เซ็ทน้ำหอม 5 กลิ่น จากละครชุด ดวงใจเทวพรหม หวังอนาคต รายได้เมอร์ชั่นไดซ์ จะอยู่ที่ 20% เมื่อเทียบกับรายได้ละครทั้งหมด
นางสาวปิยวดี มาลีนนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่ม บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ช่อง 3 เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์อุตสาหกรรมทีวีเติบโตลดลง เนื่องจากพฤติกรรมการรับชมเปลี่ยน มีช่องทางหรือแพลตฟอร์มรับชมให้เลือกเยอะ และคอนเท้นท์เองก็มีหลากหลาย มีทั้งนีชและแมส และมีทั้งของไทยและของต่างชาติ แม้แต่ผู้ชมเองก็ทำช่องของตัวเองได้ เป็นสถานการณ์ของการแข่งขันที่รุนแรง การนำเสนอหรือการรับชมก็ต้องเร็ว ต้องปรับตัวให้ทัน ปรับกันแบบบรายวันหยุดนิ่งไม่ได้
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มองเป็นโอกาสและเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดทำธุรกิจใหม่ขึ้นมา ซึ่งตามแผนงานการตลาด และการโปรโมทละครของช่อง 3 ปีนี้จะให้ความสำคัญในการนำกลยุทธ์ IMC (Integrated Marketing Communication) หรือ การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ทั้ง ออนแอร์ ออนกราวด์ ออนไลน์ และการขายสินค้าเมอร์ชั่นไดซ์ มาใช้กับละครอย่างจริงจัง
สำหรับการหารายได้ใหม่ จากการทำเมอร์ชั่นไดซ์จากละคร ประกอบด้วย 1. New Marketing Practice ด้วยการทำ Creativity & Commercial รวมกันโดยใช้ละคร เป็นตัวเชื่อมเพื่อสร้างสรรค์สินค้าจากเรื่องราวของละคร 2. Innovative Tool นำ "สินค้าจากละคร" เป็น Tool ตัวใหม่ ทางการตลาด ที่จะสร้างความผูกพันระหว่างผู้ชม และละคร 3. New Revenue สามารถสร้างการจดจำละครแบบใหม่ เช่น จดจำด้วย "กลิ่น" และสร้างรายได้ใหม่
ล่าสุดช่อง 3 พร้อมเปิดตัว “น้ำหอมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากละครชุด ดวงใจเทวพรหม” เป็นเซ็ทน้ำหอม 5 กลิ่น ซึ่งเปิดตัวและเริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ละครได้เริ่มออนแอร์ ซึ่งนอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆ ออกมาร่วมด้วย เช่น เสื้อยืด เป็นต้น
“ปีนี้ช่อง 3 หันมาทำ IMC อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการทำเมอร์ชั่นไดซ์ แม้จะทำช้ากว่าช่องอื่นก็ตาม ซึ่งมองว่าการทำเมอร์ชันไดซ์จะส่งผลให้คนหันดูละครมากขึ้น และละครจะส่งผลต่อให้เมอร์ชันไดซ์เป็นที่ต้องการมากขึ้นเช่นกัน ถือเป็นต่อยอดหารายได้จากละครที่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ทาง และปีนี้มีแผนทำเมอร์ชั่นไดซ์กับละคร 5 เรื่อง โดยดวงใจเทวพรหม คือ 1 เรื่องในนั้น จากทั้งปี 2567 นี้ ช่อง 3 จะมีผลิตละครใหม่ออนแอร์ประมาณ 20 เรื่อง จากปีก่อนๆ ที่เคยทำมากสุด 30 กว่าเรื่อง และหากเรื่องไหนมีกระแสก็อาจจะพิจารณาเพิ่มเมอร์ชั่นไดซ์เข้ามา แต่มองว่า 5 เรื่องก็เพียงพอสำหรับเวลาที่มีอยู่นี้แล้ว กับรอยต่อของการผลิต การทำตลาด สำหรับสินค้านั้น กับละครเรื่องนั้นๆ ได้เต็มไทม์ไลน์ ส่วนละครเรื่องอื่นๆ ก็จะพิจารณาต่อว่า จะทำ IMC แบบไหนจึงจะเหมาะสม เช่น ละครบางเรื่องอาจจะเหมาะกับการทำออนกราวด์มากกว่า บางเรื่องควรเล่นแค่ออนไลน์ เป็นต้น“
อย่างไรก็ตาม ช่อง 3 จะมีหน้าร้านอย่างเป็นทางการที่ชื่อ C3 สำหรับวางจำหน่ายสินค้าเมอร์ชั่นไดซ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับคอนเท้นท์ของช่อง 3 ทั้งหมด เบื้องต้น C3 เปิดให้บริการแล้วบนลาซาด้า ในช่วงต้นเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา อนาคคจะขยายให้ครบทุกช่องทาง สินค้ากลุ่มแรกยังคงเป็น เซ็ทน้ำหอมจากละครชุด ดวงใจเทวพรหม ต่อไปจะรวบรวมเมอร์ชั่นไดซ์จากทุกคอนเท้นต์ของช่อง 3 มาวางจำหน่ายรวมกัน นางสาวปิยวดี กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา ช่อง 3 เคยทำเมอร์ชั่นไดซ์มาบ้าง ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ ละครบุพเพสันนิวาส กับกิจกรรมออนกราวด์ ที่ได้จัด มิตติ้ง 2 ครั้ง รวมถึงของที่ระลึกต่างๆ เช่นเดียวกับละครภาคต่อ อย่าง พรหมลิขิต ที่มีของที่ระลึกออกมาจำหน่าย
นอกจากนี้ก็ยังเสื้อจากรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ รวมถึง เสื้อ อุ๊ย! จากรายการ โหนกระแส ของพี่หนุ่ม กรรชัย ซึ่งพบว่าผู้ชมให้การตอบรับที่ดี ดังนั้นแผนการทำเมอร์ชั่นไดซ์ครั้งนี้ มองว่าจะสร้างรายได้ในสัดส่วน 20% ในอนาคต เมื่อเทียบกับรายได้รวมที่มาจากละคร ขณะที่ปัจจุบันละครยังเป็นคอนเท้นท์หลักที่ทำรายได้ให้ช่อง 3 ในสัดส่วนกว่า 60% รองลงเป็น คอนเท้นท์ข่าว และอันดับสาม คือ คอนเท้นต์อื่นๆ รวมกัน
