xs
xsm
sm
md
lg

“มูเตลู มาร์เก็ตติ้ง” สินค้ารุก 3 GEN คนไทยแท้เน้น “การเงิน-โชคลาภ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360- การมูเตลูของคนไทยนั้นไร้ขีดจำกัด หลากหลาย หวังเรื่องเงินโชคลาภมาเป็นอันดับ 1 ล่าสุดสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย)พาไปศึกษาในหัวข้อ ‘MY GEN MY MU มูต่างวัย มองต่างมุม’ ความแตกต่างการมูของ 3 เจน พร้อมคำแนะนำให้กับแบรนด์ ผ่าน 3 กลยุทธ์ ที่อยากโหนกระแส การทำมูเตลูมาร์เก็ตติ้งให้เกิดผลสำเร็จ สาธุ!


นางสาวพร้อมพร สุภัทรวณิช รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลุยทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) โดย บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน มูเตลู ถือเป็นหนึ่งในเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่สำคัญของคนไทย จึงทำให้สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เห็นความน่าจะเป็นที่น่าสนใจทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับการมูเตลูของคนไทย ทำให้เกิดผลสำรวจที่น่าสนใจ จากพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทย ที่เรามีการศึกษาทุกๆ สองเดือน รวมไปถึงจากสื่อต่างๆ ซึ่งมักจะมีการกล่าวถึงการมูเตลูอยู่เสมอ ซึ่งถือเป็นการช่วยเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดให้แบรนด์ต่างๆ สามารถนำมาใช้เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทางสถาบันจึงนำมาเปิดเผยในกิจกรรมสัมมนาในหัวข้อ “MY GEN MY MU มูต่างวัย มองต่างมุม” ในครั้งนี้ นายกรรณ ทองศรี ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) โดย บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า จากผลการศึกษาพบว่า คนไทยโดยทั่วไปมูเตลูเน้นเรื่องเงินและโชคลาภมากที่สุด จากผู้เข้าร่วมทำแบบทดสอบกว่า 1,200 คน โดยกว่า 88% เชื่อเรื่องการมู และกว่า 52% นิยามการมูเตลูว่าเป็น‘เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ’

เมื่อเจาะลึกลงไปในหัวข้อที่ว่าผู้ชายกับผู้หญิงมูต่างกันอย่างไร ซึ่งพบว่าในเพศชายมีแนวโน้มที่จะต้องการผู้รับฟังมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้หญิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะลึกลงไป จะพบว่า การมูเตลูของคนไทยนั้นไร้ข้อจำกัด ขอบเขตของการมูครอบคลุมไปตั้งแต่ การบูชาเทพทั้งในศาสนาของตัวเอง และต่างศาสนา ไปจนถึงการใช้เครื่องรางของขลัง การใช้เลขมงคล สีมงคล เป็นส่วนกระกอบต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน


ภายใต้คำว่า มูเตลู กลับมีมิติที่มาที่ไป และวิถีปฏิบัติที่แตกต่างกันในแต่ละ Generation โดยสามารถแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 Generation ได้แก่ 1. Gen X มูแบบtraditional หรือผู้คนที่อยู่ในช่วงอายุ 43 - 58 ปี การมูจะเป็นเรื่องการสวดมนต์ ไหว้พระ ทำบุญทำทาน เสริมความหวังและกำลังใจให้แก่ตนเอง และการมีสุขภาพที่ดี ชีวิตราบรื่น ปลอดภัย, 2. Gen Y มูที่ใช่ไร้ขีดจำกัด หรือคนในช่วงอายุ 27 - 42 ปี เป็นยุครอยต่อระหว่าง analog-to-digital จึงมีการเปิดรับและปรับตัวกับสิ่งใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงเปิดกว้างให้กับความศรัทธาแบบไร้ขีด ได้ทุกศาสนาและความเชื่อ ที่จะสามารถมอบผลลัพธ์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแบบเฉพาะเรื่องได้ และจะโฟกัสกับการเงินและการงานมากกว่า Generation อื่น เพื่อความมั่นคงและก้าวหน้าในชีวิต

3. Gen Z มูแบบมินิมอล ช่วงอายุ 11 - 26 ปี เป็นคนรุ่นใหม่เติบโตในยุคดิจิทัลพร้อมปรับเปลี่ยนเพื่อสิ่งใหม่ๆ ปรับวิถีการมูให้มา blend in แบบเนียนๆ อยู่ในรูปแบบของแฟชั่นและสีสันในชีวิตประจำวัน ปรับใช้เพื่อเป็น Gimmick ทั้งในด้านการซัพพอร์ตและฮีลใจ ทั้งเสื้อผ้าสีมงคล เครื่องประดับมงคลชิ้นเล็กๆ หรือ แม้แต่วอลเปเปอร์บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เน้นเรื่องการงานและการเรียนเป็นหลัก

นางสาวดวงแก้ว ไชยสุริวิรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) โดย บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แบรนด์ที่ต้องการนำผลการศึกษาในครั้งนี้ไปปรับเป็นกลยุทธ์ให้เข้ากับแบรนด์ของตนเองเพื่อก่อให้เกิดความน่าสนใจ แนะนำให้ศึกษา 3 กลยุทธ์หลัก ดังนี้ 1. Gen X: Empowering Muketing “เติมพลังใจ เพิ่มพลังกายคนสายมู” เน้นการส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพให้กับคนกลุ่มนี้เป็นหลัก เพิ่มความน่าสนใจและคุณค่าในแง่ของความสุขทางใจ ด้วยกิจกรรมมูเตลูที่พวกเขาคุ้นเคย เช่น จัดอีเว้นท์ “กิจกรรมเดิน-วิ่ง 9 วัด” ที่ให้คน Gen X ได้สวดมนต์ ทำบุญขอพรและได้ออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน หรือจัดทำ “Packaging บทสวดมนต์/บทอวยพรมงคล”

2.Gen Y: Embracing Muketing “เปิดประสบการณ์มูแบบใหม่ ๆ เอาใจคนชอบลอง“ ด้วยนิสัยเปิดกว้าง ชอบลองของใหม่ ชอบโพสและแชร์ชีวิตแบบฮิปๆ ของตัวเอง แบรนด์อาจ recommend การมูแบบใหม่ๆ ที่ไม่มีมาก่อน โดยยึดหลัก “จุดประสงค์ชัด ประสบการณ์ใหม่ ถ่ายรูปสวย” เช่น “Meet and Mu”ทริปมูเตลูที่เน้น new spot ทั้งในและนอกประเทศ พร้อมการ tie-in สินค้าหรือบริการของแบรนด์ นอกจากจะได้มูตามศรัทธาแล้ว ยังเป็นโอกาสที่จะได้เที่ยวและพบปะเพื่อนใหม่ๆ คอเดียวกัน และยังได้รูปสวยๆ ไปโพสต์ได้ด้วย แต่ท้ายที่สุดแบรนด์ควรระวังความถูกต้องชัดเจนของข้อมูลต่างๆ เพราะคน Generation นี้ชอบค้นหา และแชร์ข้อมูลกับคนรอบข้าง

3. Gen Z: Embellish Muketing “Mu-nimalistic เอาใจคนรุ่นใหม่” หรือ“มูแบบไม่ตะโกน” คือวิธีการมูที่ถูกจริตชาว Gen Z ที่สุด แบรนด์สามารถเพิ่ม occasion ในการ connect กับคน Gen Z ได้ด้วยการเสริมเรื่องราวมูเตลูที่ “ดูดีมีสไตล์” และ “เอ็นจอยร่วมกันกับเพื่อนๆ ได้” ให้กับสินค้าหรือบริการ เช่น จัดแพคสินค้าสีมงคล สำหรับทุก ๆ วัน หรือ “สติ๊กเกอร์ God-vengers รวมพลังเทพครบเซ็ต” อีกทั้งยังควรเปิดโอกาสให้คน Gen Z ได้ “Mu - Mix – Match” ในแบบของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เช่น สินค้าแฟชั่น/ accessories หรือกลุ่มบิวตี้ ที่มี color palette เป็น “สีมงคลพาสเทล” เสริมความสนุกและความมั่นใจ ให้กับพวกเขาทั้งในชีวิตประจำวันและโลกออนไลน์


กำลังโหลดความคิดเห็น