xs
xsm
sm
md
lg

“แมคโดนัลด์” ขายเบอร์เกอร์แล้ว 29 ล้านชิ้น ทุบสถิติประวัติการณ์โกย 7.2 พันล.ปี66

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - แมคโดนัลด์ โชว์เหนือ ด้วยผลประกอบการปี 2566 แบบทุบสถิติ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2528 โกยรายได้กว่า 7.2 พันล้านบาท โต 31% ส่วนกำไรพุ่ง 168% เดินหน้าจัดทัพพร้อมอัดกลยุทธ์เต็มที่จัดทัพกลยุทธ์เชิงรุกสุดแกร่ง ด้วยงบลงทุน 600 ล้านบาท


นางสาวกิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา แมคโดนัลด์ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมียอดขายสูงถึง 7,213 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ก่อตั้งแมคโดนัลด์ ประเทศไทย มาเป็นระยะเวลากว่า 38 ปี 

โดยมีรายได้เติบโต 31% จากปี 2565 ที่มียอดขายรวม 5,504 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิก็ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่เช่นกันอยู่ที่ 315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จของเบอร์เกอร์ที่ยังคงเป็น สินค้าหลักของแมคโดนัลด์ด้วยสัดส่วนรายได้ที่มากกว่า 50% และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของไก่ทอดแมคที่สร้างอัตราการเติบโตได้ถึง 40%


สำหรับปี2567นี้ แมคไทย ตั้งเป้าหมายทีจะมีรายได้เติบโต 15% โดยเตรียมงบลงทุนไว้กว่า 600 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่ลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท โดยปี 2567 เปิดร้านใหม่กว่า 20 สาขา และรีโนเวทร้านสาขาเดิมจำนวน 25 สาขา ภายใต้การออกแบบที่ตรงตามอินไซด์ลูกค้าทุกกลุ่ม ปีนี้มีแผนที่จะใช้ดีไซน์ร้านด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่อีก 2 คอนเซปต์ ได้แก่ คอนเซปต์ ‘CUBE’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสุขในการแกะกล่อง Happy Meal มาผสานองค์ประกอบการออกแบบเพื่อเปลี่ยนโฉมความทรงจำในวัยเด็กสู่พื้นที่จริง

ส่วนอีกคอนเซปต์คือ ‘Essential Ingredients 2.0’ หยิบเอาเอกลักษณ์ของแมคโดนัลด์ ในรูปทรงแบบ ไดนามิกและสีสันต่างๆ มาถ่ายทอดในรูปแบบของศิลปะป๊อปอาร์ตที่สนุกสนาน ซึ่งปีที่แล้ว2566 ได้เปิดตัวร้านดีไซน์ใหม่ 2 สาขา คือ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และ บางแค ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Geometry’ โมเดิร์น ทันสมัย แต่งเติมด้วยลวดลายเฉพาะตัวในสีสันสดใส


รวมทั้งสร้างความยั่งยืนด้วยหลัก ESG ย้ำการเป็น Green & Sustainable ยกระดับคุณภาพการให้บริการให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามเทรนด์เทคโนโลยีในปัจจุบัน ด้วยสาขาต้นแบบที่มีการตกแต่งบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกร้านอย่างใส่ใจด้วยวัสดุรีไซเคิล การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมอำนวยความสะดวกให้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะพร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบไตรมาส ที่ 2 ปีนี้

ส่วนยอดสมาชิกดาวน์โหลดแอปนั้น ล่าสุดมีประมาณ 2.3 ล้านราย และมียอดสมาชิกแอคทีฟประมาณ 2.2 แสนราย โดยลูกค้าที่เข้ามาใช้บริหารมีค่าใช้จ่ายต่อบิลประมาณ 200 บาท มากกว่าเดิม


นางสาวกิตติวรรณ กล่าวว่ากลยุทธฺ์ที่จะดำเนินในปีนี้จะเป็นการสานต่อและเพิ่มความเข้มข้นจากกลยุทธ์หลักเดิมปีที่แล้วที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ประกอบด้วย

1. Flagship Value Platform: ตอบโจทย์ ‘ความคุ้มค่า’ ให้กับลูกค้า ด้วยเมนูที่หลากหลาย และทุกช่วงเวลาเช่น ‘EVM’ (Everyday Value Meals) ราคา 99 บาท มีทั้งชุดเมนูเบอร์เกอร์ ชุดเมนูไก่ทอดแมค พร้อมเครื่องดื่ม หรือ ชุด ‘McSavers 1+1’ ราคา 55 บาท ให้เลือกจับคู่เมนูของว่างและของหวาน ปีที่ผ่านมา ชุด ‘EVM’ เติบโตถึง 47.8% ในขณะที่ชุด ‘McSavers 1+1’ เติบโตกว่า 12%

2. BIC & Chicken Leadership: ครองใจ Gen Z ด้วยไก่ทอดแมค ตลาดไก่ทอดในประเทศไทยเติบโตอย่างน่าสนใจมากขึ้นทุกปี โดยปี 2566 ตลาดไก่ทอดในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 31,026 ล้านบาท ไก่ทอดแมคจากปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 40% จากการปรับสูตรใหม่ ปีนี้มีแผนที่จะสร้างการเติบโตไก่ทอดแมคอย่างแข็งแกร่ง โดยเปิดตัว พรีเซ็นเตอร์ ‘ต้าห์อู๋ x ออฟโรด’ ตัวแทนของกลุ่ม Gen Z และยังเป็นแฟนไก่ทอดแมคตัวจริง และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของกลุ่ม Gen Z ที่นิยมบริโภคไก่ทอดมาก ซึ่งแคมเปญล่าสุดสร้างยอดขายไก่ทอดแมค เพิ่ม 50% โดยเฉพาะชุดบักเก็ตไก่ทอดแมค จะมีแคมเปญและโปรโมชั่นไก่ทอดแมคต่อเนื่องทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญของคนไทย คาดว่าปี 2567 แมคโดนัลด์จะทำให้ไก่ทอดแมคเติบโตมากขึ้นต่อเนื่อง


3. Burger Leadership: ย้ำตัวจริงด้านเบอร์เกอร์คุณภาพเยี่ยม เบอร์เกอร์นับเป็น Portfolio หลักของแมคโดนัลด์ เน้นความเป็นผู้นำเรื่องคุณภาพและรสชาติ ตามคอนเซปต์ Hotter, Juicier, Tastier ที่เปิดตัวปลายปี 2566 เพื่อเน้นย้ำถึงคุณภาพและรสชาติเบอร์เกอร์ด้วยเนื้อ 100% นำเข้าจากออสเตรเลีย วิธีย่างเนื้อพิเศษ พร้อมขนมปังสูตรเฉพาะของ แมคโดนัลด์ คาดว่าปีนี้จะผลักดันให้ยอดขายเติบโตได้ต่อไป

4. Experience of the Future (EotF): ประสบการณ์บริการที่ทันสมัย ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงความอร่อยและคุ้มค่า แต่ยังรวมถึงประสบการณ์การได้รับการบริการผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (SOK) ที่รองรับการชำระเงินแบบไร้เงินสด นอกจากนี้ยังมีบริการเสิร์ฟอาหาร ที่โต๊ะและพนักงานต้อนรับ (GEL – Guest Experience Leader) ผู้คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ตั้งเป้ามอบประสบการณ์บริการที่ทันสมัยครบ 100% ภายในปีนี้อย่างแน่นอน

สำหรับตลาดรวมคิวเอสอาร์ หรือร้านอาหารบริการจานด่วนในไทย มีมูลค่ามากกว่า 45,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะเติบโต 6%-8% แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ ไก่ทอด มูลค่า 31,000 ล้านบาท เบอร์เกอร์ มูลค่า 9,800 ล้านบาท และที่เหลือคือ กลุ่มพิซซ่า โดยที่แมคโดนัลด์เป็นผู้นำตลาดเบอร์เกอร์




























กำลังโหลดความคิดเห็น