xs
xsm
sm
md
lg

"สุริยะ”สั่ง ทช. รับมือภัยแล้ง - ไฟป่า - PM2.5 วาง 3 แนวทาง ป้องกันและช่วยเหลือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุริยะ” สั่ง ทช. รับมือภัยแล้ง - ไฟป่า - PM2.5 ลดมลพิษทางอากาศและผลกระทบต่อสุขภาพ วาง 3 แนวทาง เตรียมพร้อม ป้องกัน และช่วยเหลือ พร้อมแจกจ่ายน้ำประปาบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนท เตือนหยุดการเผาป่า หญ้าข้างทาง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทย ได้เข้าสู่ฤดูร้อน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงปัญหาไฟป่า การเผาวัชพืชริมสองข้างทาง ที่ส่งผลให้เกิดควันไฟบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางระหว่างขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยประชาชนที่อาศัยตามแนวสองข้างทางและตามแนวชายป่าโดยขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเกิดไฟป่า ป้องกันการเกิดปัญหาหมอกควันที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนจึงได้มอบหมายให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง หมอกควัน ไฟป่า และการป้องกันปัญหามลพิษทางอากาศ ตามนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในการลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และการแก้ไขปัญหา PM2.5 นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ ทช.เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอีกด้วย


โดยทช. ได้กำหนดมาตรการให้หน่วยงานในภูมิภาค ประกอบด้วย สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 - 18 แขวงทางหลวงชนบท และหมวดบำรุงทางหลวงชนบท ทบทวนแนวทางในการเตรียมพร้อมและการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ประสบภัยแล้ง การเฝ้าระวังการเผาวัชพืชบริเวณเขตทางหลวงชนบท และเข้มงวดการตรวจวัดค่าไอเสียจากเครื่องจักรและยานพาหนะเพื่อลดผลกระทบต่อคุณภาพของสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยมีแนวทาง ดังนี้


1.การเตรียมความพร้อมและการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ประสบภัยแล้ง

ประสานข้อมูลพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือกับจังหวัด พร้อมให้การสนับสนุนรถบรรทุกน้ำและเจ้าหน้าที่ เพื่อแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้รับทราบ

ดำเนินการออกสำรวจโครงข่ายในความรับผิดชอบที่มีความเสี่ยงต่อการทรุดตัว กรณีดินถล่มบริเวณไหล่เขา พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และกรณีสายทางเกิดการทรุดตัวให้เร่งนำเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรได้ชั่วคราว และติดตั้งป้ายเตือน ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

2.การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และ PM2.5

หน่วยงานในพื้นที่เตรียมความพร้อมเผชิญเหตุกรณีเกิดภัย โดยให้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำพร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อบูรณาการดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จัดทำป้ายรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่และประชาชนหยุดการเผาป่า วัชพืช หญ้าข้างทางในเขตทางหลวงชนบท และให้ทราบถึงมาตรการดำเนินงาน วิธีป้องกัน PM2.5 และข้อเสียของการเผาป่า

เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการตัดหญ้าสองข้างทาง เก็บเศษหญ้า วัสดุให้เรียบร้อย รวมทั้งบังคับใช้ พ.ร.บ.ทางหลวง อย่างเคร่งครัด


3.มาตรการลดมลพิษทางอากาศของเครื่องจักรกลและยานพาหนะ

ประสานงานร่วมกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตรวจวัดค่าควันไอเสียของเครื่องจักรและยานพาหนะที่ใช้ปฏิบัติงาน โดยใช้เครื่องมือวัดค่าควันดำ “ระบบวัดค่าความทึบแสง” เพื่อควบคุมค่าควันไอเสียให้เป็นไปตามที่มาตรฐานและกฎหมายกำหนด ตรวจสภาพและบำรุงรักษาเครื่องจักรกลและยานพาหนะให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งานเป็นประจำทุกเดือน และหากเครื่องจักรหรือยานพาหนะใดมีค่าควันไอเสียเกินกว่าค่าที่กำหนด
ให้หยุดใช้งานทันทีและดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรฐานของ ขบ. จึงจะสามารถนำกลับมาใช้งานได้


นอกจากนี้ ยังมีการช่วยเหลือแจกจ่ายน้ำประปาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งในปี 2567 ทช. ได้สนับสนุนโดยการแจกจ่ายน้ำประปาเพื่อให้ประชาชนได้ใช้สำหรับอุปโภคบริโภคตามที่ได้ร้องขอ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นเหตุไฟป่าและไฟไหม้หญ้าริมทางหลวงชนบท สามารถแจ้งและขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วน ทช. โทร. 1146




กำลังโหลดความคิดเห็น