xs
xsm
sm
md
lg

‘สุริยะ’หารือ’ฝรั่งเศส’ดึงร่วมทุนธุรกิจอากาศยานในไทย และแผนรับการใช้โดรนเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"สุริยะ" หารือ "ฝรั่งเศส" ร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของไทย ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์-สิ่งแวดล้อม เตรียมความพร้อมการเข้าสู่ระบบนิเวศน์ทางการบินในอนาคต รองรับการใช้งานโดรน พร้อมเชิญชวนภาคเอกชนร่วมลงทุน “ธุรกิจอากาศยาน”ในไทย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้ร่วมประชุมหารือกับนาย Damien Cazé ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (DGAC France) ณ โรงแรม Prince de Galles กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยได้หารือในหลายประเด็นสำคัญถึงความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยให้มีความก้าวหน้า และยั่งยืนในระยะยาวต่อไป

ทั้งนี้ ตนได้แสดงความขอบคุณ DGAC France ที่มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน และสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding on Technical Cooperation) มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การแก้ไขปัญหาด้านการบินในช่วงที่ผ่านมามีประสิทธิผลที่ดี อีกทั้งยังทำให้การพัฒนาระบบการบินของไทยมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการพัฒนาใหม่ ๆ ที่มีความสำคัญต่อบทบาทของไทยในฐานะรัฐภาคีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

สำหรับการหารือครั้งนี้ ได้พิจารณาถึงการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ระบบนิเวศน์ทางการบินในอนาคต ซึ่งจะมีอากาศยานไร้คนขับ (Drone) หลากหลายประเภทเข้ามาใช้งาน ทั้งการใช้งานสำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไป และความท้าทายในการนำอากาศยานประเภท eVTOL (Electric Vertical Take-offand Landing) ซึ่งใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ หรือ UAM (Urban Air Mobility) ที่เป็นการใช้อากาศยานขนาดเล็กในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในระดับการบินต่ำในเขตเมืองเข้ามาใช้งาน


นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการยกระดับการดำเนินงานด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อภาคการบินในปัจจุบัน รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมการบิน ได้แก่ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในภาคการบิน (Decarbonization) ผ่านการใช้เชื้อเพลิงพลังงานที่ยั่งยืน (SAF: Sustainable Aviation Fuel) ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญของโลกในปัจจุบัน และเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

ขณะเดียวกัน ในการหารือครั้งนี้ ยังได้เชิญชวนภาคเอกชั้นนำจากภูมิภาคยุโรปมาร่วมลงทุนกับประเทศไทย ได้แก่ บริษัท SATYS (ซาทิส) บริษัทสัญชาติฝรั่งเศสที่ดําเนินกิจการด้านทําสีอากาศยาน และตกแต่งภายในอากาศยานและรถไฟ ดําเนินงานให้กับ Airbus, Boeing, Stelia Aerospace และ Air France อีกทั้งเชิญชวนบริษัท Volocopter (โวโล คอปเตอร์) บริษัทสัญชาติเยอรมันที่ดําเนินการด้านการพัฒนาการเคลื่อนย้ายทางอากาศในเขตเมืองและชานเมือง (UAM) และมีการผลิตยานพาหนะที่สามารถบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (eVTOL) อาทิ VoloCity และ VoloConnect หรือที่เรียกว่าแท็กซี่อากาศ (Air Taxi) ที่จะให้บริการขนส่งผู้โดยสาร และ VoloDrone ที่จะให้บริการขนส่งสินค้าไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยและปลอดมลพิษ


กำลังโหลดความคิดเห็น