xs
xsm
sm
md
lg

ครบ 110 ปี'สนามบินดอนเมือง' ลุยพัฒนารับ 50 ล้านคน บริการ POINT-TO-POINT เชื่อมโครงข่าย หนุน'ฮับ'ภูมิภาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สนามบินดอนเมือง ครบ 110 ปี ก้าวขึ้นปีที่ 111ลุยพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคนเป็น 50 ล้านคนต่อ บริการ POINT-TO-POINT สะดวก รวดเร็ว เชื่อมโยงสนามบินกับโครงข่ายการเดินทางทั่วประเทศหนุนนโยบาย"ฮับ"รุกตลาดเครื่องบินส่วนบุคคล

วันที่ 8 มีนาคม 2567 นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือทอท. เป็นประธานในพิธีทำบุญเนื่องในโอกาศครบรอบการดำเนินงาน 110 ปี ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมี น.ส.ณิชนันทน์ ยุ่นสมาน รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (สายสนับสนุนธุรกิจ) ร.อ.ปกป้อง สุวรรณโมฬี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (สายปฏิบัติการ) นายภิเษก ชยาภิวุฒ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (สายบำรุงรักษา) ผู้บริหาร และพนักงาน ทอท. และอดีตผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการ สายการบิน และผู้ประกอบการ ให้เกียรติเข้าร่วมงาน โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป จากวัดดอนเมือง (พระอารามหลวง) ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงานและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน จากนั้นร่วมรับชมการแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “ยกรบ” และรำอวยพร ชุด “ระบำกฤดาภินิหาร” และนิทรรศการ “The History of Aviation in Thailand” ประวัติศาสตร์การบินในประเทศไทย ณ อาคาร Service Hall ชั้น 3 ทดม.


นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม กล่าวว่า
ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ในฐานะท่าอากาศยานนานาชาติแห่งที่ 2 รองรับเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศในภูมิภาค ซึ่งพร้อมส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของโลก เชื่อมโยงการขนส่งทางอากาศ และเชื่อมต่อการเดินทางแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน เปลี่ยน ท่าอากาศยานดอนเมืองให้เป็นท่าอากาศยานแบบ POINT-TO-POINT สะดวก รวดเร็ว ครบครัน โดยมีแผนพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคนต่อปี เป็น 50 ล้านคนต่อปี อาทิ โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศรองรับจำนวนผู้โดยสาร 23 ล้านคนต่อปี โครงการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศรองรับผู้โดยสาร 27 ล้านคนต่อปี

และพัฒนาเพื่อยกระดับการบริการ อาทิ โครงการก่อสร้างอาคาร Junction Building เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนทางรางรถไฟฟ้าสายสีแดง สามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น พัฒนาให้เป็นแหล่งรวมของฝาก OTOP จากทั่วประเทศ ,พัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul: MRO) ร่วมกับเอกชน และการก่อสร้างอาคารจอดรถเพิ่มพื้นที่จอดรถมากขึ้น 5 เท่า สามารถรองรับได้ 7,600 คัน ภายในปี 2572


นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการตรวจสอบ บำรุงรักษาอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มีความปลอดภัยและพร้อมใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา และความพร้อมของบุคลากรในการให้บริการและการรักษาความปลอดภัยภายใน ท่าอากาศยาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานของ ทดม.บรรลุประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและการให้บริการ

โดยได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับระบบบริการผู้โดยสารเข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอยและแก้ปัญหาคอขวด บรรเทาความหนาแน่นของผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน ได้แก่ (1) ระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Terminal Equipment: CUTE) เป็นระบบอำนวยความสะดวกและจัดการด้านการเข้าถึงระบบเช็กอินผู้โดยสารผ่าน Airlines Application (2) ระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) เป็นระบบอำนวยความสะดวกและจัดการด้านการเข้าถึงระบบเช็กอินผู้โดยสาร โดยมุ่งเน้นการบริการแบบ Self-Service ซึ่งผู้โดยสารไม่ต้องต่อแถวรอ (3) ระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) ผู้โดยสารสามารถโหลดกระเป๋าสัมภาระสู่สายพานลำเลียงได้ด้วยตนเองอัตโนมัติ (4) ระบบตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร (Passenger Validation System: PVS) เป็นระบบการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน (5) ระบบประตูทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ (Self-Boarding Gate: SBG) เพิ่มความสะดวกสบายนักเดินทาง และให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการภาคพื้น (Ground Handling) รองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ทดม.ยังให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัย การปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล อันเป็นองค์ประกอบสำคัญของการก้าวไปสู่ศูนย์กลางการบินโลก


ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ชื่อเดิมคือ ท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือที่เรียกกันว่า สนามบินดอนเมือง เปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2457 เป็นท่าอากาศยานในประเทศไทย และเป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ (International Airport) ที่ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในทวีปเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลง และเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนขนส่งพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 AOT มีการเปิดใช้งาน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) อย่างเต็มรูปแบบ ทดม.จึงเปลี่ยนสถานะการดำเนินงานมาเป็นพื้นที่สำหรับจอดอากาศยานส่วนตัวของบุคคลสำคัญ พื้นที่สำหรับการฝึกบิน และการซ่อมอากาศยาน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา ทดม.ได้เปลี่ยนสถานะการดำเนินงาน โดยกลับมาให้บริการเที่ยวบินแบบประจำ (Scheduled flight) ในประเทศอีกครั้ง และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ทดม.ได้กลับมาเปิดให้บริการในฐานะท่าอากาศยานนานาชาติแห่งที่ 2 อีกครั้ง เพื่อช่วยลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ณ ทสภ. ด้วยเหตุนี้ ทดม. จึงกลายเป็นท่าอากาศยานที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปเอเชีย และนับเป็นท่าอากาศยานที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก




กำลังโหลดความคิดเห็น