“บ้านปู เพาเวอร์” ทุ่ม 500 ล้านเหรียญสหรัฐใน 2 ปีนี้เพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ได้ตามเป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ในปี 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,642 เมกะวัตต์ ลั่นครึ่งแรกปี 67 ปิดดีล M&A โรงไฟฟ้าก๊าซฯ แห่งใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มเติม หนุนรายได้ปีนี้ทุบสถิติสูงสุดโตกว่าปีก่อนที่ 3 หมื่นล้านบาท
นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด(มหาชน) (BPP) เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 30,443 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตเพิ่มขึ้นมาจากการลงทุนควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) โครงการโรงไฟฟ้าใหม่ทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยตั้งงบลงทุนใน 2 ปีนี้ (2567-68) อยู่ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเป็น 5,300 เมกะวัตต์ในปี 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,642 เมกะวัตต์
ในครึ่งแรกปีนี้บริษัทคาดว่าจะปิดดีลการทำ M&A โรงไฟฟ้าก๊าซฯ ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วในสหรัฐฯ อีก 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตราว 700-800 เมกะวัตต์ หรือจะต้องมีกำลังผลิตไม่น้อยกว่าโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I และ Temple II ที่รัฐเทกซัส ซึ่ง BPP คาดถือหุ้น 25-30% ในโรงไฟฟ้าใหม่หรือคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 100-200 เมกะวัตต์ เพื่อรักษาการเติบโตทั้งรายได้กำไรของบริษัท
"ขณะนี้บริษัทได้ยื่นเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติการทำ M&A โรงไฟฟ้าก๊าซฯ ในสหรัฐฯ ในเดือนนี้ ดังนั้น คาดว่าจะได้เห็นการลงทุน 1 โครงการในครึ่งแรกปี 2567 อย่างไรก็ดี บริษัทมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการทำดิวดิลิเจนซ์"
นอกจากนี้ บริษัทยังลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาด 5 เมกะวัตต์ในสหรัฐฯ และเตรียมลงทุนโครงการแบตเตอรี่ฟาร์มในพื้นที่โรงไฟฟ้าTemple ll รองรับกำลังการผลิตได้ 100 เมกะวัตต์ แต่จะติดตั้งเท่าใดขึ้นอยู่กับภาพรวมตลาด คาดว่าจะมีข้อสรุปในปีนี้
นายกิรณกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ยังมองโอกาสเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable) ในประเทศที่ BPP มีฐานธุรกิจอยู่แล้วใน 8 ประเทศ โดยเฉพาะจีน และอินโดนีเซีย ขณะเดียวกันก็มองการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพลังงาน เช่น ธุรกิจสายส่ง การขนส่งพลังงาน ฯลฯ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ ซึ่งกลุ่มบ้านปูได้มีการลงทุนธุรกิจดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCUS) ในสหรัฐฯสามารถนำมาต่อยอดกับธุรกิจโรงไฟฟ้าได้ในอนาคต
ในปีนี้ BPP ยังคงพัฒนาและขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบพลังงานไฟฟ้าคุณภาพสู่สังคม หรือ Powering Society with Quality Megawatts ผ่าน 3 จุดแข็งในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1. ดำเนินงานด้วยคุณภาพระดับสากลจากความเชี่ยวชาญของทีมงานของ BPP เพื่อสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจและปรับตัวกับความท้าทายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ผสานพลังร่วมในระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่งใน 8 ประเทศยุทธศาสตร์ของ BPP และผนึกกำลังร่วมภายในกลุ่มบ้านปูผ่านการแบ่งปันองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านพลังงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มโอกาสและมูลค่าทางธุรกิจ และ 3. สร้างคุณค่าที่ยั่งยืนแก่สังคมทุกภาคส่วน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ควบคู่ไปกับการเป็นองค์กรพลเมืองที่ดี ผ่านการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับหลักความยั่งยืน
ปัจจุบัน BPP มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 3,642 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว 39 โครงการ กำลังผลิตรวม 3,534 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 108 เมกะวัตต์ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการลงทุนในปี 2568 เพิ่มเป็น 5,300 เมกะวัตต์ โดยจะมาจากโรงไฟฟ้า HELE & THERMAL จำนวน 4,500 เมกะวัตต์ และพลังงานหมุนเวียน 800 เมกะวัตต์