“พีระพันธุ์” แจ้งข่าวดีประชาชนล่วงหน้า ค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. 67 คุมให้อยู่ที่เดิม 4.18 บาท/หน่วยหลังข่าวดีหลายด้านโดยเฉพาะการผลิตก๊าซฯ จากอ่าวไทยของ ปตท.สผ.กลับคืนเพิ่มในเดือน เม.ย. นี้ พร้อมลงไปตรวจสอบด้วยตนเอง 28 ก.พ.นี้ ย้ำจะใช้ทุกมาตรการดูแลค่าครองชีพประชาชน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ในงวด ม.ค.-เม.ย. 67 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย และงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 67) จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทุก 4 เดือนตามต้นทุน โดยเบื้องต้นนโยบายของกระทรวงพลังงานจะพยายามคงอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดใหม่ดังกล่าว ไว้ในอัตราเดิมเฉลี่ยที่ 4.18 บาท/หน่วย ให้ได้มากที่สุด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้เพราะเนื่องจาก บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.ยืนยันว่าจะสามารถขุดก๊าซจากอ่าวไทยที่ขาดหายไปจำนวนมากกลับคืนมาได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
"ผมจะเดินทางไปดูการทำงานของ ปตท.สผ.ที่หลุมขุดเจาะเอราวัณกลางอ่าวไทยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้มั่นใจว่า ปตท.สผ.จะสามารถดำเนินการได้ตามที่รับปากไว้ และยังมีแนวโน้มว่าปัจจัยอื่นน่าจะเป็นบวกมากกว่าในงวดเดือนมกราคม ถึงเมษายน 2567 อีกทั้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับปากว่าจะพยายามยืนอัตราค่าไฟฟ้าไว้ในอัตราเดิม ผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะไม่เจอกับปัญหาการขึ้นค่าไฟฟ้าในงวดดังกล่าวเพราะเราเป็นห่วงประชาชน จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะลดภาระค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานของประชาชนซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญลงให้ได้ โดยใช้มาตรการทุกอย่างที่ทำได้ภายใต้โครงสร้างปัจจุบันก่อนที่จะรื้อทั้งระบบภายในปีนี้" นายพีระพันธุ์กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้หารือกับผู้บริหารกระทรวงพลังงานโดยเฉพาะนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรี (นายณอคุณ สิทธิพงษ์) และประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ รวมทั้งคณะกรรมการ กกพ. และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้ร่วมกันพยายามหาทางให้อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนมกราคม ถึงเมษายน 2567 ไม่สูงถึงหน่วยละ 4.68 บาทอย่างที่เคยเป็นข่าว แม้จะมีปัจจัยลบจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาการขุดก๊าซจากอ่าวไทยที่ขาดหายไปเป็นจำนวนมากพอสมควรทำให้ต้องนำเข้าก๊าซที่มีราคาแพงมาชดเชยในช่วงเวลาดังกล่าว แต่เมื่อทุกฝ่ายช่วยกันบริหารจัดการปัจจัยต่างๆ อย่างจริงจังแล้วก็สามารถทำให้อัตราค่าไฟฟ้าอยู่ที่หน่วยละ 4.18 บาท และยืนอัตราหน่วยละ 3.99 บาทสำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง ทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อนจากอัตราค่าไฟฟ้าในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2567 มากนัก