xs
xsm
sm
md
lg

GGC ตั้งเป้าปีนี้คงยอดขาย 4.5 แสนตัน สยายปีกสู่ธุรกิจเสริมอาหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



GGC วางเป้ายอดขายรวมปี 67 ใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.5 แสนตัน มาจากปริมาณการขายกลุ่มเมทิลเอสเทอร์ (B100) แฟตตี้แอลกอฮอล์และกลีเซอรีน พร้อมขยายธุรกิจสู่ตลาด Food Ingredients & Pharmaceutical ออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็น Green Product ภายใต้แบรนด์ “Nutralist” เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการมีสุขภาพดี

นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมในปี 2567 ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 4.5 แสนตัน มาจากปริมาณการขายกลุ่มธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ (B100) กว่า 3 แสนตัน กลุ่มธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) ประมาณ 1 แสนตัน และกลีเซอรีน 4 หมื่นตัน คาดว่า Adjusted EBITDA ปีนี้จะใกล้เคียงกับปี 2566 อยู่ที่ 812 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาทในปี 2569

แนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะเมทิลเอสเทอร์ (B100) ในปี 2567 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนตามนโยบายการสนับสนุน B7 ของภาครัฐ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ B100 เพิ่มขึ้น ขณะที่ซัปพลายในปีนี้ก็ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้การแข่งขันยังสูง บริษัทเน้นทำสัญญาระยะยาวให้มากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทได้เสนอภาครัฐพิจารณาการเพิ่มสัดส่วนการผสม B100 เป็น B10 รวมทั้งในภาครถบรรทุกขนส่ง อาจเพิ่มเป็น B20-B30 ได้ในอนาคต

นายกฤษฎากล่าวว่า แนวโน้มความต้องการแฟตตี้แอลกอฮอล์คาดว่าดีมานด์ปีนี้ไม่ลดลงจากปีก่อน ขณะเดียวกันก็มีตลาดใหม่เติบโตขึ้น จึงมองว่ายอดขายแฟตตี้แอลกอฮอล์ในปีนี้จะไม่น้อยกว่าในปี 2566 ที่มีปริมาณการขายจำนวน 97,390 ตัน ส่วนด้านซัปพลายบางช่วงอาจขาดบ้าง ทำให้ราคาขยับขึ้นบ้างในช่วงไฮซีซัน


นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่ตลาดในกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็น Green Product เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการมีสุขภาพดีภายใต้แบรนด์ “Nutralist” ผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 ตัว คือ Astaxanthin และ Probiotic ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งก้าวที่สำคัญของ GGC ที่ต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การขยายพอร์ตการลงทุนในธุรกิจเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความต้องการสูงและตอบสนองต่อ Lifestyle ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพในปัจจุบัน โดยบริษัทคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของ GGC เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจกลุ่ม Food Ingredients &Pharmaceutical ไว้ที่ 10% ของ EBITDA หรือคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี 2569 เทียบกับปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท

นายกฤษฎากล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสการเติบโตสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success ผ่านการมุ่งมั่นดำเนินการตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ เข้มแข็ง (Enhance Competitiveness) เติบโต (Growth Portfolio) และยั่งยืน (Sustainability Development)


กำลังโหลดความคิดเห็น