xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.คิกออฟ”แท็กซี่ไฟฟ้า”นำร่องบริการที่”สุวรรณภูมิ”เป้า1,000 คันในปีนี้ มุ่งหรือ Green Airport

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทอท.คิกออฟ นำรถแท็กซี่ไฟฟ้ามาให้บริการผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ นำร่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมติดตั้งสถานีให้บริการ EV Charge สำหรับสมาชิก ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน E มุ่งต้นแบบ หรือ Green Airport แห่งแรกในประเทศไทย

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือทอท. เปิดเผยว่า ทอท.ได้นำร่องนำรถแท็กซี่ไฟฟ้ามาให้บริการแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งได้ติดตั้งสถานีให้บริการเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (EV Charge) สำหรับรถแท็กซี่ไฟฟ้าสมาชิก บริเวณลานจอดรถระยะยาวโซน E ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อมุ่งสู่ท่าอากาศยานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต้นแบบ หรือ Green Airport แห่งแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้า รถแท็กซี่ไฟฟ้าบริการที่ 1,000 คัน ในปี 67


ปัจจุบันมีสมาชิกผู้ขับขี่รถรับจ้างสาธารณะ เริ่มให้ความสนใจในการปรับเปลี่ยนมาใช้ EV Taxi เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงแรก AOT ได้ดำเนินการติดตั้งสถานีให้บริการเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าแบบใช้สายโดยการอัดประจุแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charge) ซึ่งมีกำลังไฟฟ้าในการอัดประจุ 40 kW ต่อเครื่อง จำนวน 16 เครื่อง และ 150 kW ต่อเครื่อง จำนวน 2 เครื่อง บริเวณลานจอดรถระยะยาวโซน E ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำหรับรองรับการให้บริการแก่รถแท็กซี่ที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็นยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันและอนาคต


นอกจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งเครื่อง DC Fast Charge ซึ่งมีกำลังไฟฟ้าในการอัดประจุ 360 kW ต่อเครื่อง จำนวน 10 เครื่อง และ 150 kW ต่อเครื่อง จำนวน 2 เครื่อง เพื่อรองรับการให้บริการแก่รถบริการรับ – ส่งผู้โดยสาร (Shuttle Bus) รถบริการสาธารณะ รถส่วนกลาง และรถส่วนงานของ AOT ภายในพื้นที่ Support Facilities บริเวณตรงข้ามศูนย์บริหารการขนส่งสาธารณะ

และ AOT ยังมีโครงการติดตั้ง EV Charging Station ทั้งในพื้นที่ Airside, Landside และ Custom Free Zone รวม 7 จุด เพื่อรองรับแนวโน้มที่ยานยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมในวงกว้าง ตามทิศทางที่ทั่วโลกหันมาสนใจการใช้ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดอีกด้วย


นายกีรติกล่าวว่ ปัจจุบันรถยนต์ 1 คันปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 5 ตันต่อปี ซึ่งในประเทศไทยมีรถยนต์มากกว่า 10 ล้านคัน ในส่วนของ AOT ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มุ่งสนองนโยบายของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการผลักดันความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งของไทย เพื่อมุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ AOT จึงให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งขับเคลื่อน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสู่การเป็นต้นแบบ Green Airport หรือท่าอากาศยานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งแรกในประเทศไทย ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนรถยนต์ที่ให้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เป็นรถไฟฟ้า (EV) ได้ จะทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50 ล้านตันต่อปี

โดย AOT มีความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบภายใต้หลักธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักธรรมาภิบาล และมุ่งสู่การเป็น “ท่าอากาศยานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” หรือ Green Airport เพื่อการเติบโตขององค์กรอย่างมั่นคง และยั่งยืน






กำลังโหลดความคิดเห็น