xs
xsm
sm
md
lg

ส่อแข่งเดือด! 4 บิ๊กรับเหมายื่นชิงสร้างท่าเทียบเรือ "แหลมฉบังเฟส 3" วงเงิน 7.3 พันล้าน กทท.คาดสรุปผล เม.ย. 67

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เผย 4 บิ๊กเนม  "ITD-เนาวรัตน์-ไชน่าฮาร์เบอร์- ยูนิค" ยื่นประมูลสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ถนน "แหลมฉบังเฟส 3" วงเงินกว่า 7.3 พันล้านบาท กทท.คาดประเมินเทคนิคจบ ต้น ก.พ.ลุยเปิดราคา สรุปผลเม.ย. เร่งเข้าพื้นที่ใน มิ.ย. 67

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้างานโครงสร้างพื้นฐานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ว่า ขณะนี้ กทท.อยู่ระหว่างดำเนินการเปิดประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) งานส่วนที่ 2 คือ งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนนและระบบสาธารณูปโภค ราคากลาง 7,387.518 ล้านบาท (งบประมาณ 7,425 ล้านบาท) โดยให้ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 15 ธ.ค. 2566 ปรากฏว่ามีผู้ยื่นข้อเสนอจำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR, บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

เบื้องต้นเอกสารทั้ง 4 บริษัทได้ผ่านการตรวจสอบเป็นไปตามทีโออาร์กำหนดครบถ้วน ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการประกวดราคาฯ จะมีการเปิดซองด้านคุณสมบัติและข้อเสนอเทคนิค เพื่อพิจารณาให้คะแนน หลักการคะแนนรวมทุกหัวข้อจะต้องไม่ต่ำกว่า 80 คะแนนจึงจะมีสิทธิ์เปิดซองราคา โดยจะสรุปคะแนนด้านเทคนิคภายใน 30 วันทำการหลังยื่นข้อเสนอ ซึ่งคาดว่าจะสามารถพิจารณาด้านเทคนิคเสร็จ และเปิดข้อเสนอด้านราคาได้ประมาณต้นเดือน ก.พ. 2567 โดยรายที่เสนอราคาต่ำสุดจะเป็นผู้ชนะประมูลในครั้งนี้

นายเกรียงไกรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้กทท.เปิดประมูลงานส่วนที่ 2 ไปแล้ว มีเอกชนยื่นประมูล 2 ราย แต่ปรากฏว่ามีการยื่นเอกสารไม่ครบถ้วน ทำให้เหลือเอกชนเพียงรายเดียว จึงต้องยกเลิกประมูล ในครั้งนี้ กทท.เปิดเชิญชวนให้เอกชนที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมประมูล ซึ่งมีเอกชน 4 รายยื่นซองและเอกสารครบถ้วน ถือว่ามีจำนวนที่น่าพอใจและคาดว่าจะมีการแข่งขันอย่างเต็มที่

สำหรับส่วนงานที่ 2 ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มีความยาก เพราะเป็นเรื่องที่ต้องมีการขออนุญาตก่อสร้างทางทะเล ท่าเทียบเรือ ซึ่งเอกชนที่มีคุณสมบัตินี้มีแค่ 4 ราย ซึ่งได้เข้ายื่นประมูลในครั้งนี้

ตามแผนงานคาดหมายว่าจะสามารถเปิดข้อเสนอราคาและสรุปผลการประมูลได้ในเดือน ก.พ. 2567 จากนั้นจะเร่งนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) กทท. คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับผู้ชนะประมูลได้ประมาณปลายเดือน เม.ย. 2567 เพื่อเร่งรัดการก่อสร้างทันที เนื่องจากงานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือที่เป็นส่วนงานที่ 2 นี้จะต้องดำเนินการต่อเนื่องจากงานส่วนที่ 1 คือการก่อสร้างทางทะเล งานขุดลอกถมทะเล สร้างเขื่อนกันคลื่น ที่ผู้รับเหมาจะส่งมอบพื้นที่ งาน Key Date 3 ให้กทท.ในเดือน มิ.ย. 2567


สำหรับ TOR งานส่วนที่ 2 (ก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค) กำหนดคุณสมบัติ ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างและเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่การท่าเรือฯ เชื่อถือได้ โดยต้องมีผลงานก่อสร้างท่าเทียบเรือทางทะเลในประเทศไทย ไม่รวมเครื่องมือยกขน สัญญาเดียวมูลค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และเป็นผลงานที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในระยะเวลา 10 ปี

การตัดสินพิจารณาใช้เกณฑ์ราคา เนื่องจากการจัดจ้างครั้งนี้ต้องการผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณภาพและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์กับท่าเรือแหลมฉบังมากที่สุด จึงกำหนดเป็นเงื่อนไขทางเทคนิค เพื่อคัดเลือกผู้เสนอราคาที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามกำหนด 1. การบริหารจัดการและแผนงานโครงการ 20 คะแนน 2. บุคลากร 20 คะแนน 3. เครื่องจักรก่อสร้าง 20 คะแนน 4. วิธีการก่อสร้าง 40 คะแนน โดยจะต้องได้คะแนนในแต่ละหัวข้อไม่น้อยกว่า 70% และเมื่อรวมคะแนนทุกหัวข้อแล้วจะต้องไม่น้อยกว่า 80% จึงจะถือว่าผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค เพื่อทำการพิจารณาข้อเสนอด้านราคาต่อไป

สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน แหลมฉบังระยะที่ 3 มีจำนวน 4 งาน งานส่วนที่ 1 การก่อสร้างทางทะเล เป็นงานขุดลอกถมทะเล สร้างเขื่อนกันคลื่น วงเงิน 21,320 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยจะแล้วเสร็จทั้งหมดในวันที่ 24 มิถุนายน 2569 ส่วนที่ 3 คืองานก่อสร้างระบบรถไฟ งบประมาณ 799.5 ล้านบาท และส่วนที่ 4 งานจัดหา ประกอบและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับขนย้ายสินค้า พร้อมออกแบบและติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับบริหารท่าเรือระบบโครงสร้างพื้นฐาน งบประมาณ 2,257.84 ล้านบาท อยู่ระหว่างทบทวนการออกแบบ เนื่องจากเดิมออกแบบตั้งแต่ปี 2558-2561 และปรับร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference : TOR) ซึ่งคาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ในช่วงปลายปี 2567


กำลังโหลดความคิดเห็น