กฟผ.ออกโรงแจงกรณีฐานะการเงิน กฟผ. ย้ำมีกระแสเงินสด ณ สิ้นปี 2566 จำนวน 9.1 หมื่นล้านบาท กรณีระบุจะขาดสภาพคล่องโดยจะติดลบในเดือนธ.ค. 67 เป็นเพียงข้อมูลคาดการณ์จากสมมติฐานค่าไฟที่จะอยู่ระดับ 3.99 บาทต่อหน่วยจนถึงสิ้นปีนี้
นายชัยวุฒิ หลักเมือง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน ในฐานะรองโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายเกี่ยวกับฐานะการเงินของ กฟผ. ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2567 โดยระบุว่าสภาพคล่องกระแสเงินสดของ กฟผ.จะลดลงเหลือ 10,000 ล้านบาท ในเดือนตุลาคม 2567 และจะติดลบในเดือนธันวาคม 2567 ซึ่งอ้างอิงข้อมูลมาจาก “รายงานการประชุมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย” นั้น กฟผ.ขอเรียนชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลคาดการณ์เก่า ณ เดือนตุลาคม 2566 เป็นการคาดการณ์สถานะกระแสเงินสดของ กฟผ.ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2567 โดยใช้สมมติฐานรายรับจากค่าไฟฟ้าที่ใช้ตัวเลขสมมติฐานหน่วยละ 3.99 บาท จนถึงเดือนธันวาคม 2567 เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจให้กับพนักงานเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูล ณ ปัจจุบันของ กฟผ.
สำหรับข้อมูลล่าสุด ผลประกอบการและสถานะการเงินจริงของ กฟผ. ณ สิ้นปี 2566 มีกระแสเงินสดประมาณ 91,000 ล้านบาท มิใช่ 61,623 ล้านบาท ตามข้อมูลสมมติฐานที่คาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคม 2566 โดย กฟผ.มีมาตรฐานการรักษาระดับเงินสดขั้นต่ำที่ต้องคงไว้ประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องติดตามและรายงานสภาพคล่องกระแสเงินสด พร้อมวิธีการบริหารสภาพคล่องต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน และคณะกรรมการ กฟผ. เพื่อทราบและให้ความเห็นเป็นประจำทุกเดือน
ทั้งนี้ กฟผ.จะต้องดำเนินการบริหารทางการเงินเพื่อรักษาระดับเงินสดให้อยู่ในระดับ 60,000 ล้านบาท ซึ่งยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อใช้บริหารสภาพคล่องทางการเงินของ กฟผ.