สอน.ผนึกแบงก์กรุงไทย-ไทยพาณิชย์อัดฉีด 4,000 ล้านบาท เปิดตัวสินเชื่อลดฝุ่น PM 2.5 ในอุตสาหกรรมอ้อย และน้ำตาลทราย
นายนรุณ สุขสมาน รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ร่วมกับธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัวโครงการนำร่องการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อช่วยลด PM 2.5 ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ขานรับนโยบายของรัฐบาลเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมเข้าสู่วิถีใหม่ สร้างอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสังคม ควบคู่การสร้างความเข้มแข็งและกระจายรายได้สู่ชุมชน ทั้งนี้ ภาครัฐได้มีนโยบายส่งเสริมการตัดอ้อยสดแทนการเผาอ้อยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ปัจจุบันจำนวนรถตัดอ้อยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ซึ่งการสนับสนุนของภาคการเงินจะก่อให้เกิดแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นมิตรต่อๅสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
นายสุรธันว์ คงทน ประธานผู้บริหาร Wholesale Banking ธนาคารกรุงไทย และ ดร.ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าร่วมการเปิดตัวโครงการ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับทิศทางนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยได้ออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อการปรับตัวแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สำหรับจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ เช่น รถตัดอ้อย และเครื่องบดอัดใบอ้อย เพื่อช่วยลดปัญหา PM 2.5 ด้วยการให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมให้ระยะเวลาในการชำระเงินคืนนานขึ้นสูงสุด 7 ปี โดยชำระคืนเงินต้นเพียงปีละครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้จากผลผลิตอ้อยที่เก็บเกี่ยวและขายได้ครั้งเดียวต่อปี โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีสัดส่วนการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ต่อการรับซื้ออ้อยทั้งหมดลดลงจากปีก่อนหน้า มีสัดส่วนการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศหรือภูมิภาคเดียวกัน และเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งโครงการจะติดตามการดำเนินการและวัดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ของธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์การเงินเพื่อความยั่งยืน เพื่อให้สถาบันการเงินเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนภาคธุรกิจปรับตัวไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ภาคการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจไทย ภาคการเงินจึงเห็นว่า สามารถมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืนด้วยการสนับสนุนสินเชื่อที่จะให้ภาคอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเกิดสภาพคล่องในการปรับตัวเพื่อประกอบธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ในการสนับสนุนสินเชื่อร่วมกันและมีเป้าหมายเป็นวงเงินรวมกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสามารถขยายความร่วมมือไปยังธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ที่สนใจได้ในอนาคต รวมทั้งก่อให้เกิดความร่วมมือในวงกว้างระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคการเงินมากขึ้นในระยะต่อไป เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง