xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจคึกคักรับ “Easy E-Receipt” อัดแคมเปญรองรับกระตุ้นยอดขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ค้าปลีก ห้างร้าน สินค้า เปิดเกมรุกต้อนรับมาตรการ “Easy E-Receipt” อัดแคมเปญพร้อมโปรโมชัน และวางระบบพร้อมรับ หวังกระตุ้นยอดขายช่วงต้นปีรับเทศกาลจับจ่ายนานเดือนครึ่ง

จากกรณีที่รัฐบาลได้ออกมาตรการ “Easy E-Receipt” เพื่อสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะเริ่มในช่วงต้นปี พ.ศ. 2567 โดยหลักการคร่าวๆ คือ ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล) สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น ส่งผลให้บรรดาธุรกิจร้านค้าสินค้าต่างๆ ที่อยู่ในเงื่อนไขต่างก็เข้าร่วมรายการและออกแคมเปญโปรโมชันเพื่อเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคกันอย่างคึกคักในช่วงต้นปีนี้


นางสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการ “Easy E-Receipt” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและการอ่าน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีและการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้น
 
ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ซึ่งประกอบด้วย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมสนับสนุนมาตรการของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภค และการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ที่สามารถช่วยดึงดูดและกระตุ้นให้ผู้บริโภคจับจ่าย เพราะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจริงในระบบเศรษฐกิจ


สำหรับโครงการ Easy e-Receipt กำหนดให้ผู้มีเงินได้ ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือผู้ประกอบการทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท โดยผู้ต้องการใช้สิทธิ์จะต้องได้รับใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice (กรณีบริษัทจด VAT) และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Receipt (กรณีบริษัทไม่จด VAT) โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด

เพื่อสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้เตรียมแคมเปญโปรโมชันพิเศษ ภายใต้ชื่อ “Easy E-Receipt 2024 ช้อปเพลิน เกินคุ้ม” ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีรายละเอียด คือ เมื่อชอปและแสดงใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) จากร้านค้าที่เข้าร่วมรายการในแต่ละศูนย์ฯ ครบ 10,000 บาทขึ้นไป โดยสามารถรวบรวมใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้ไม่เกิน 3 ใบ จากร้านค้าภายในศูนย์ฯ เดียวกันและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด นำมาแลกรับบัตรกำนัล SIAM GIFT CARD มูลค่า 800 บาท สำหรับนำไปใช้ซื้อสินค้าตั้งแต่ 1,600 บาทขึ้นไป โดยแบ่งเป็น สยามพารากอน จำนวน 800 สิทธิ์ , สยามเซ็นเตอร์ 400 สิทธิ์ , และสยามดิสคัฟเวอรี่ 300 สิทธิ์ โดยลูกค้าที่สนใจสามารถแลกรับสิทธิ์ และตรวจสอบจำนวนสิทธิคงเหลือได้ที่จุดรีเดมชันภายในทั้ง 3 ศูนย์การค้า

นอกจากนี้ ในระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 ตลอดทั้งสองเดือน ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยามยังได้เตรียมโปรโมชันและกิจกรรมอีเวนต์อย่างต่อเนื่องมากมาย เพราะเป็นช่วงเทศกาลและงานสำคัญ เช่น เทศกาลปีใหม่ งานวันเด็กแห่งชาติ เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลวาเลนไทน์ ซึ่งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้เตรียมกระหน่ำแคมเปญอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้ลูกค้านักชอปทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะเป็นช่วงที่มีการจับจ่ายสูงถือเป็นหนึ่งในไฮซีซันสำคัญของธุรกิจรีเทลและศูนย์การค้า และเพื่อตอกย้ำการเป็น Top of Mind เป็นเดสติเนชันที่หนึ่งในใจของลูกค้า ไม่ว่าจะเทศกาลใดก็ตาม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า LINE MAN MART ได้สนับสนุนมาตรการรัฐ ชวนคนไทยชอปสินค้าลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt โอกาสดีที่ไม่ควรพลาด สั่งง่ายได้ทั้งชอป ได้ทั้งของ พร้อมหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2567 สูงสุดถึง 50,000 บาท เมื่อสั่งสินค้าจากร้านค้าดังที่ร่วมรายการกว่า 721 แห่ง ผ่าน LINE MAN MART พร้อมรับส่วนลดเพิ่มอีก 10% สูงสุด 150 บาท* ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567

โดยสามารถเลือกชอปสินค้าจากร้านค้าดัง ได้แก่ Tops, Tops daily, Gourmet Market, OfficeMate, B2S, HomePro และ BigC Hyper สาขาที่ร่วมรายการกว่า 721 สาขา* ในพื้นที่บริการ 10 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล, ชลบุรี, ระยอง, อยุธยา, เชียงใหม่ ตั้งแต่วันนี้-15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งทุกการสั่งซื้อสามารถเลือกกดรับ Easy E-Receipt เพียงกรอกข้อมูลบน LINE MAN ขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ e-Tax invoice หรือ e-Receipt ได้อย่างง่ายดาย

“โครงการ Easy E-Receipt” บน LINE MAN MART ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดกระแสตอบรับที่ดีจากโครงการช้อปดีมีคืนลดหย่อนภาษีปี 2566 ที่ผ่านมา โดยการสนับสนุนโครงการภาครัฐครั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน พร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ไม่พลาดการได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ยังมอบส่วนลดพิเศษให้แก่ผู้ใช้เพียงกรอกโค้ด “EASYTAX” รับส่วนลด 10% สูงสุด 150 บาท เมื่อสั่งขั้นต่ำ 600 บาท (ตามเงื่อนไขบริษัท)


ทางด้านเดอะมอลล์กรุ๊ป รวมไปถึง เพาเวอร์มอลล์ ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เตรียมตัวต้อนรับมาตรการนี้เช่นกันในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เมื่อลูกค้ามาชอปปิ้ง รับประทานอาหาร และใช้บริการภายในห้างฯ และศูนย์ รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง สูงสุด 50,000 บาท คืนภาษีให้นักชอปสูงสุด 17,500 บาท

ขณะที่เพาเวอร์มอลล์เองก็มองว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีการเติบโตได้ถึง 10-15% เพราะมาตรการ E-Receipt จะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่ดี” โดยเพาเวอร์มอลล์จะคืนภาษีให้สูงสุด 17,500 บาท (ทั้งนี้ การได้รับเงินคืนภาษีขึ้นอยู่กับอัตราภาษีของแต่ละท่าน) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67-15 ก.พ. 67 ที่เดอะมอลล์ ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์

ส่วนเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) ขานรับแคมเปญ “Easy E-Receipt” กับบริการ E-TAX Invoice เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และเพิ่มการลดหย่อนภาษีได้อีก (โดยจะส่งให้ทางอีเมลที่ลงทะเบียน) เมื่อใช้บริการที่ร้านอาหารชั้นนำในเครือซีอาร์จี ทั้งหมด 19 แบรนด์ ได้แก่ มิสเตอร์ โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้ แอนส์, เปปเปอร์ ลันช์, ชาบูตง ราเมน, โคลด์ สโตน ครีมเมอรี่, เทอเรสซ์ เดอ บางกอก, โยชิโนยะ, โอโตยะ, เทนยะ, คัตสึยะ, อร่อยดี, เกาลูน, สลัดแฟคทอรี่, บราวน์, ส้มตำนัว, อาริกาโตะ, ราเมน คาเกทสึ อาราชิ และ คีอานิ อีกทั้งยังรวมถึงบริการสั่งอาหารผ่าน 1312 FOODHUNT DELIVERY ด้วย โดยสามารถนำใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบยื่นลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท ตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 2567

ทางด้านเครือโรงแรมเซ็นทารา ประกาศขานรับนโยบายของภาครัฐ เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์จากโครงการ Easy e-Receipt เพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อเข้าพักหรือใช้บริการอื่นๆ ภายในโรงแรม เช่น การรับประทานอาหารหรือทำสปา ณ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือทุกแห่งทั่วประเทศไทย เพื่อให้การพักผ่อนของทุกคนและทุกครอบครัวคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เพียงทำการจองและใช้บริการภายในระยะเวลาตามที่รัฐบาลกำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ก็มีสิทธิ์นำไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท โดยลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ในการขอรับใบเสร็จแบบ e-Tax หรือ e-Receipt พร้อมยื่นบัตรประชาชนตัวจริงได้ ณ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทาราที่เข้ารับบริการ นอกจากนั้นก็มีอีกหลายธุรกิจที่ร่วมมาตรการ เช่น อิเกีย อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ เป็นต้น

ทั้งนี้ มาตรการ Easy E-Receipt คาดว่าจะสามารถสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้มากถึง 70,000 ล้านบาท และจะกระตุ้นจีดีพี (GDP) ของปี 2567 เพิ่มขึ้นประมาณ 0.18% ได้ เนื่องจากช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพราะเป็นช่วงของเทศกาลต่างๆ ตั้งแต่เทศกาลปีใหม่ วันเด็ก ตรุษจีน ที่จะมีการบริโภคและการจับจ่ายอย่างมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น