xs
xsm
sm
md
lg

รณรงค์ปีใหม่ปลอดภัย"สุรพงษ์”ตรวจสถานีกลางฯ พร้อมบริการ รฟท.จัดรถเสริมเพิ่ม อีก 12 ขบวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"สุรพงษ์”เปิดกิจกรรมรณรงค์ “ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน”พร้อมปล่อยแถวตำรวจดูแลประชาชนเดินทาง ด้านรฟท.เพิ่มตู้โดยสารเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถประจำ 214 ขบวนต่อวัน และเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษอีก 12 ขบวน รองรับผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน

วันที่ 28 ธันวาคม 2566 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์โครงการ “ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” และปล่อยแถวตำรวจ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 โดยมีนางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมพิธีเปิดกิจกรรม ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่ให้นโยบายดูแลความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงขอให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมมือกันอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาใช้เชื่อมโยงการทำงานดูแลระบบการขนส่งต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้การเดินทางมีความสะดวก ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และเกิดความปลอดภัยตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ ยังกำชับให้การรถไฟฯ ติดตามสถานการณ์การเดินทางของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทั่วประเทศ ให้เป็นศูนย์กลางสำหรับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผน สั่งการ ควบคุมการทำงาน รวมถึงการรับแจ้งเหตุต่างๆ ที่เกี่ยวกับการรถไฟฯ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้บริการแก่ผู้โดยสารสูงสุด


สำหรับการจัดกิจกรรมรณรงค์โครงการ “ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” และปล่อยแถวตำรวจ ในครั้งนี้ กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการคมนาคมขนส่งทั้งทางราง บก น้ำ อากาศ ได้ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชน และมีความห่วงใยต่อปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมในการเมาแล้วขับ โทรแล้วขับ ง่วงแล้วขับ ขับรถเร็ว ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนที่เดินทาง พร้อมเน้นย้ำให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎจราจร ขับขี่อย่างมีน้ำใจ คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกนิรภัย เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เดินทางฉลองปีใหม่อย่างปลอดภัยจากอุบัติเหตุ


ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้จัดแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง ตลอดจนได้รับความสะดวกความปลอดภัย ในการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ตลอดจนเทศกาล ซึ่งในช่วงปีใหม่ครั้งนี้ การรถไฟฯ ได้จัดเตรียมความพร้อมโดยเพิ่มตู้โดยสารจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถประจำจำนวน 214 ขบวนต่อวัน และเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารอีก 12 ขบวน สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน


นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมมาตรการด้านความปลอดภัย โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยกำชับให้ตรวจสอบความพร้อมขบวนรถให้มีความสมบูรณ์มากสุด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีรถไฟและบนขบวนรถทั่วประเทศ พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่ และห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์บนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟทุกกรณีอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งยังจัดตั้งศูนย์ความปลอดภัยทั่วประเทศเพื่อรับแจ้งเหตุและประสานงานต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป

ในโอกาสนี้ การรถไฟฯ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นจัดอาสาสมัครเฝ้าระวังทางผ่านเสมอระดับรถไฟ – รถยนต์ ที่มีความเสี่ยง หรือบริเวณที่เป็นชุมชนหนาแน่นเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันเหตุทั้งทางถนนและทางรถไฟ พร้อมกับร่วมกับกองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนรถไฟ โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ ควบคู่กับการมีเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และพนักงานรักษาความปลอดภัยช่วยดูแลเพิ่มอีกหนึ่งทาง


รวมทั้ง ได้นำระบบติดตามขบวนรถไฟ (TTS:Train Tracking System) ที่สามารถตรวจสอบเวลา และตำแหน่ง ขบวนรถทุกขบวน โดยระบบจะแสดงสถานะการเดินรถให้ทราบทันที ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสาร และผู้ที่มารอรับที่ปลายทาง สามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านความสะดวกและความปลอดภัย ช่วยสร้างความมั่นใจในการเดินทางแก่ผู้โดยสารตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง


นายนิรุฒกล่าวเพิ่มว่า การรถไฟฯ ยังได้ร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด บูรณาการโครงข่ายคมนาคม ตามนโยบาย Quick Winขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด บูรณาการโครงข่ายคมนาคมเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ตามนโยบาย Quick Win “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” โดยได้นำรถบัสโดยสารเฉพาะของ บขส. (ไม่รวมรถร่วมบริการและรถตู้โดยสาร) เข้ามาจอดส่งผู้โดยสารขาเข้าบริเวณประตูที่ 3 ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้ปรับกำหนดเวลาการ
เดินรถให้สอดคล้องกับเวลาเข้า – ออกของรถไฟแต่ละขบวน เพื่อรองรับผู้โดยสารทั่วไปที่เดินทางต่อเนื่อง และบริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด ได้ขยายเวลาให้บริการของขบวนรถสายสีแดง ต้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จากเวลา 05.00 น. เป็นเวลา 04.00 น. ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 สำหรับกลุ่มผู้โดยสารที่จะเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีแดง ช่วยเพิ่มทางเลือกการเดินทางที่สะดวกอย่างไร้รอยต่อให้กับประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น