"สุรพงษ์"เปิดทดลองใช้มอเตอร์เวย์ M81 เริ่ม 11.00 น.วันที่ 27 ธ.ค. 66 – 3 ม.ค. 67 รวม 8 วัน วิ่งฉิว"นครปฐม-เมืองกาญจน์"แค่ 30 นาที ของขวัญปีใหม่ คาดรถใช้ 9,000 คัน/วัน แนะใช้ความเร็ว 80 กม./ชม. เตรียมเปิดอีกช่วงสงกรานต์ยาวถึงสิ้นปี ทล.เร่งระบบ O&M เปิดเต็มรูปแบบปี 68
วันที่ 27 ธันวาคม 2566 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณด่านกาญจนบุรี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดทดลองใช้บริการทางหลวงพิเศษระหวางเมืองหมายเลข 81 (สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี) ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก – ด่านกาญจนบุรี เมื่อโดยมี นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) พร้อมด้วย นายธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงระหว่างเมือง ผู้บริหารกรมทางหลวงเข้าร่วม
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ (27 ธ.ค.2566) เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง (ทล.) พร้อมเปิดให้บริการ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี) ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ตำบลวังตะกู อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ตัดกับทางหลวงหมายเลข 321 ที่ กม.6+200 จนถึง ด่านกาญจนบุรี ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ตัดกับทางหลวง หมายเลข 324 ที่ กม.8+400 รวมระยะทาง 51 กม. เป็นระยะเวลา 8 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2566 เวลา 11.00 น. – 3 มกราคม 2567 เวลา 24.00 น. โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนชาวกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ที่จะสามารถเดินทางในช่วงปีใหม่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นับเป็นของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงคมนาคมมอบให้แด่พี่น้องประชาชน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีและภาคตะวันตกได้เป็นอย่างดี
โดยจากกรุงเทพ ถึงกาญจนบุรี มีทางแยกถึง 129 ไฟแดง และหากเดินทางด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์จากนครปฐม-กาญจนบุรี จะใช้เวลาเพียง 30 นาที เมื่อเปรียบเทียบกับ ทางหลวงแผ่นดินปกติ (ทล.4 และ ทล.323) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ทั้งนี้ บริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง จะมีการกั้นแนว Barrier ชั่วคราว ทั้ง 2 ทิศทาง เพื่อกั้นขอบเขตระหว่างพื้นที่ก่อสร้างภายในด่านฯ และพื้นที่ที่เปิดให้รถยนต์สัญจร รวมทั้งมีการจัดเจ้ารหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยด้วย
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ในการเปิดให้ประชาชนใช้ชั่วคราวนี้ เป็นส่วนที่งานโยธาก่อสร้างเสร็จแล้วซึ่งกรมทางหลวงได้ตรวจสอบความปลอดภัยของเส้นทาง มีระบบไฟฟ้าแสงสว่าง มีจุดพักรถ ห้องน้ำระหว่างทาง บริเวณกม. 70-72 และเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนคอยดูแลอำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือ ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการเปิดทดลองใช้เส้นทางครั้งแรก ระยะทางยาว 51 กม. โดยไม่มีจุดขึ้นลงระหว่างทาง จึงมีข้อแนะนำ ให้ประชาชนใช้ระมัดระวังในการขับขี่ เพราะ มอเตอร์เวย์มีการจำกัดทางเข้าออกเส้นทางไม่มีไฟแดง ไม่มีไฟแดงเลย ขอให้ใช้ ความเร็วตามที่กำหนด ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้กรมทางหลวง ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจัดการจราจร บริเวณทล.321(ถ.มาลัยแมน) จ.นครปฐม เพื่อระบายรถช่วงขาเข้าจาก ด่านนครปฐม ฝั่งตะวันตก ด้วย
โดยการเปิดให้บริการ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 นี้ คาด ว่าจะมี รถมาใช้มอเตอร์เวย์ ช่วงนครปฐม-กาญจนบุรีประมาณ 9,000 คันต่อวัน ซึ่งจะเป็นช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจร ตั้งแต่ช่วงจังหวัดนครปฐม จนถึง จังหวัดกาญจนบุรี ได้ประมาณ 20 % หรือ จากปริมาณจราจรบนถนนแสงชูโต ช่วงปกติมีปริมาณการจราจรอยู่ที่ 35,000 คันต่อวัน และช่วงเทศกาลอยู่ที่ 45,000 คันต่อวัน
รมช.คมนาคมกล่าวว่า หลังจากเปิดทดลองใช้ในช่วงปีใหม่ เรียบร้อย กรมทางหลวง จะประเมินผล และเสียงตอบรับการใช้งานของประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อม โดยจะมีการเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ฟรีอีกครั้งในช่วงสงกรานต์เดือนเมษายน 2567 จากนครปฐม-กาญจนบุรี
ระยะทาง 51 กม. เหมือนเดิม แต่จะเพิ่มเติม สามารถขึ้นลง ด่านระหว่างทาง ที่ด่านท่ามะกาและด่านท่าม่วงได้แล้ว รวมถึงจะเป็นการให้ใช้ฟรีไปตลอดจนกว่าการติดตั้งระบบจ่ายแต่แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงปลายปี 2567 และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบในปี 2568
"มอเตอร์เวย์สายนี้ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางนักท่องเที่ยว นักธุรกิจที่จะเดินทางเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยระยะเวลาที่รวดเร็วมากขึ้น จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้กับจังหวัดกาญจนบุรี และพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศ ทั้งด้านอุตสาหกรรม นำเข้าส่งออก การท่องเที่ยวโรงแรม ระบบโลจิสติกส์"นายสุรพงษ์กล่าว
@ทล.เร่งโยธา 8 สัญญาเสร็จกลางปี 67
ด้านนายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี) โดยการก่อสร้างงานโยธา มีความก้าวหน้า ณ เดือนพฤศจิกายน 2566 โดยรวมประมาณ 95.96 % ล่าช้ากว่าแผง 3.001% โดยงานโยธามี 25 สัญญา ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว 17 สัญญาอยู่ระหว่างก่อสร้าง 8 สัญญา
โดย งานโยธาที่เหลือจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในกลางปี 2567 โดยใน เดือนมกราคมจะเสร็จ1 สัญญาเดือนกุมภาพันธ์เสร็จสองสัญญาเดือนมิถุนายนเสร็จอีกสี่สัญญาที่เหลือ
ส่วนงานติดตั้งระบบ เช่น ระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง ระบบบริหารจัดการและควบคุมการจราจร เป็นต้น จะดำเนินการในรูปแบบ PPP ซึ่งกรมทางหลวงได้ลงนามสัญญาการให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โดยการร่วมลงทุนในครั้งนี้ แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง พร้อมติดตั้งงานระบบ และองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะเป็นผู้ออกแบบและลงทุนก่อสร้างติดตั้งงานระบบและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย งานก่อสร้างด่านและติดตั้งระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow งานระบบควบคุมและบริหารจัดการจราจรอัจฉริยะ งานระบบโครงข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสง และระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนสายทาง งานอาคารศูนย์ควบคุม และอาคารสำนักงานต่างๆ โดยมีความก้าวหน้าเดือนพฤศจิกายน 2566 รวม 32.06% ล่าช้า 20.87%
@ระบบ O&M เสร็จเปิดเต็มรูปแบบปี 68
ทั้งนี้ ทล.ได้เร่งรัดเอกชนเพื่อดำเนินการงานระบบให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปลายปี 2567 เพื่อเริ่มทำการทดสอบระบบโดยคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568
ระยะที่ 2 งานดำเนินงานบริหารจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางและบำรุงรักษาถนนและงานระบบทั้งหมด เป็นระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่เปิดให้ประชาชน โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะทำหน้าที่จัดเก็บค่าผ่านทางและนำส่งรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมดให้แก่กรมทางหลวง บริหารจัดการและควบคุมการจราจร ซึ่งรวมถึงงานกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนซ่อมบำรุงรักษาถนนและงานระบบทั้งหมดของโครงการเป็นเวลา 30 ปี โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับค่าก่อสร้างงานระบบ และค่าตอบแทนสำหรับการดำเนินงานและบำรุงรักษา
ทั้งนี้ ในส่วนการให้เอกชนร่วมลงทุนและบริหารจัดการที่พักริมทาง (Rest Area) กรมทางหลวงอยู่ระหว่างสรุปรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ และเริ่มการคัดเลือกการดำเนินงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน
สำหรับรูปแบบโครงการเป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองขนาด 4 ถึง 6 ช่องจราจร มีระยะทางรวม 96 กม. มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอนนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ด้านตะวันตก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จุดสิ้นสุดอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี – อ.พนมทวน) ผ่าน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี โดยในแนวเส้นทางมีด่านเก็บค่าผ่านทาง 8 แห่ง ได้แก่ ด่านบางใหญ่ ด่านนครชัยศรี ด่านศรีษะทอง ด่านนครปฐมฝั่งตะวันออก ด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ด่านท่ามะกา ด่านท่าม่วง และด่านกาญจนบุรี มีที่พักริมทางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้ทาง จำนวน 3 ตำแหน่ง 6 แห่ง แบ่งออกเป็น สถานบริการทางหลวง จำนวน 2 ตำแหน่ง ที่ อ.นครชัยศรี และ อ.เมืองนครปฐม และสถานที่พักริมทาง จำนวน 1 ตำแหน่ง ที่ อ.ท่ามะกา
