เชื่อแน่ว่า ถ้าใครเคยเข้าไปใช้บริการปั๊ม ‘พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62’ จะต้องร้องว้าวกันทุกคน เพราะที่นี่มีอะไรให้ชม ช้อป ชิล และจุดบริการเยอะมาก จนอยากจะบอกว่า นี่คือแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในเมืองกรุงที่น่าแวะเข้าไป รับรองว่าจะรู้สึกถึงความแปลกใหม่โดนใจอย่างแน่นอน
“พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62” เกิดจากความตั้งใจอันดีของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่ต้องการสร้างสถานีบริการที่เป็นต้นแบบ หรือ แฟลกชิป (Flagship) ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ OR และสะท้อนแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ OR ซึ่งพร้อมสร้างโอกาสให้ผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อม เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด SDG ในแบบของ OR ในทุกมิติ
บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตรของสถานีบริการแห่งนี้ เราจะพบกับสินค้าและบริการหลากหลาย ซึ่งตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่อย่างครบครัน ทั้งร้านอาหารแบรนด์ต่าง ๆ และสินค้าบริการเพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นร้าน คาเฟ่ อเมซอน คอนเซ็ปต์ สโตร์ (Café Amazon Concept Store) ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ อเมซอน รูปแบบพิเศษ “Coffee X People” ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภคที่มานั่งในร้าน โดยมี Specialty Bar สำหรับผู้สนใจกาแฟ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับครอบครัว และพื้นที่ Co-Working Space รวมทั้งมีเมนูพิเศษที่มีเฉพาะที่สาขานี้เท่านั้น
แต่ที่ว้าวขึ้นไปอีกก็คือ มีร้านค้าแบรนด์ใหม่ ๆ พร้อมเมนูพิเศษให้เลือกหลากหลาย เช่น ร้านกาแฟพาคามาร่า (Pacamara) ซึ่งเป็นสาขาแรกที่เปิดให้บริการในสถานีบริการ และเป็นสาขาแรกที่เสิร์ฟเมนูอาหารและเบเกอรี่ รวมไปถึงร้านโอ้กะจู๋ ซึ่งเป็นสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ 2 ชั้น รองรับลูกค้าได้กว่า 180 คน พร้อมให้บริการทั้งแบบ Drive Thru, Dine-In, Takeaway และ Delivery และยังมีเมนูพิเศษที่มากกว่าสาขาอื่นอีกด้วย
แน่นอนว่า ถ้าพูดถึงอีกหนึ่งจุดแข็งของ พีทีที สเตชั่น ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ก็คือเรื่องของการให้บริการน้ำมันและพลังงาน ซึ่งที่ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 แห่งนี้ ยังคงเต็มเปี่ยมด้วยมาตรฐานที่ตอบโจทย์การใช้พลังงานทุกรูปแบบ เพื่อรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพที่มีให้บริการอย่างครบครัน ทั้งเกรดพรีเมียม (Super Power) และเกรดมาตรฐาน (Xtra Save) และจุดชาร์จ EV Centralized Charger ที่สามารถให้บริการได้ 6 หัวชาร์จพร้อมกัน รองรับการชาร์จไฟสูงสุด 180 Kw อีกทั้งยังมีโชว์รูมรถ BYD ตามแนวโน้มความต้องการรถไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
สุดท้ายแล้วต้องบอกว่า เมื่อเข้าไปใน พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 เราสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ OR ในการยกระดับสถานีบริการให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดมาจากการผสมผสานแนวคิดการบริการจัดการแบบ SDG ในแบบฉบับของ OR ที่มุ่งไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งนำเสนอระบบนิเวศของ OR (OR Ecosystem) ในธุรกิจของ OR และพันธมิตรได้อย่างครบวงจร ซึ่งสิ่งที่ OR คิดออกมาเป็น 3 ด้าน ต้องบอกว่ามีคุณค่าดีต่อใจอย่างมาก ได้แก่
1. “S” หรือ “SMALL” มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก โดยมีร้านไทยเด็ดต้นแบบ ที่สนับสนุนสินค้าชุมชนจากทั่วประเทศ , ร้านภัทรพัฒน์ ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิชัยพัฒนา และ “Common Space” หรือพื้นที่เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน
2. “D” หรือ “DIVERSIFIED” มุ่งเน้นการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตในทุกรูปแบบผ่านแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ของ OR ที่มีศักยภาพ โดยสถานีบริการแห่งนี้มีร้านค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งในเครือ OR และพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่ อเมซอน , เท็กซัส ชิคเก้น , พาคามาร่า และ โอ้กะจู๋ เป็นต้น
3. “G” หรือ “GREEN” มุ่งเน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) โดย OR ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการสถานีบริการแห่งนี้ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้คนชุมชนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันเพื่อเสริมความมุ่งมั่นในเป้าหมายเรื่อง Carbon Neutrality ของ OR ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนจากการออกแบบอาคารสอดแทรกเข้าไปในพื้นที่ธรรมชาติ ในรูปแบบ Green Station ร่วมกับเทคโนโลยีการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อใช้ภายในสถานีบริการและร้านค้าที่ OR ดำเนินการ พร้อมทั้งได้ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (G-Box) จากกลุ่มบริษัทในเครือ NUOVO PLUS เพื่อจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเร็ว ๆ นี้จะมีการนำเทคโนโลยี AI-CCTV for Customer Carbon มาใช้ในการสามารถตรวจจับระยะเคลื่อนรถ และยี่ห้อรถ เพื่อคำนวณก๊าซ CO2 ที่เกิดขึ้นของผู้บริโภคภายในสถานีบริการด้วย
ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะ OR ยังสอดแทรกโครงการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ร้านคาเฟ่ อเมซอน ใช้แก้วร้อนที่เป็น Bio degradable และการนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตเป็นสินค้า (Upcycling Products) ทั้งเสื้อและผ้ากันเปื้อนของพนักงาน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งร้าน เป็นต้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คนและชุมชนให้เติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง
หลังจากเข้าไปใช้บริการแล้วครั้งหนึ่ง ต้องบอกเลยว่า นี่คือสถานีบริการปั๊มน้ำมันที่พิเศษและแตกต่างจากที่เคยเห็นมาจริง ๆ จะว่าไปก็อยากให้มีปั๊มแบบนี้เกิดขึ้นเยอะ ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งทาง OR ก็บอกไว้ชัดเจนว่า นี่คือสถานีต้นแบบ และพร้อมจะขยายไปยังจุดอื่น ๆ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อเติมเต็มความสุขให้ทุกคน
ใครอยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ลองเข้าไปใช้บริการได้ที่ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 แถมในช่วงเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนธันวาคม 2566 นี้ เขามีโปรโมชั่นพิเศษเยอะมาก คนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Contact Center โทร. 1365 รับรองว่า โดนใจแน่นอน!